
สวัสดีค่ะ ฝ้ายนะคะ วันนี้ฝ้ายขอเรียกว่ามาเล่าประสบการณ์แล้วกันเนอะ ในการร้อยไหมที่วลีรัตน์คลีนิกให้เพื่อนฟัง เผื่อว่าใครที่สนใจการร้อยไหม หรือกำลังคิดว่าร้อยไหมมันจะดีมั้ยเจ็บมั้ยอย่างนี้ จะได้เอาไว้เป็นข้อมูลกัน คือก่อนหน้านี้ฝ้ายมีปัญหานึงเลยที่กังวล อ่า! ไม่เชิงกังวลเท่าไหร่ คือแบบไม่ชอบดีกว่า ไม่ชอบร่องมุมปากเวลายิ้มน่ะค่ะ มันทำให้หน้าเราดูแก่ก่อนวัย เคยฉีดฟิลเลอร์แล้วอะไรแล้ว มันก็ดีขึ้นนะ แต่พอสลายก็เหมือนเดิม ฝ้ายอยากได้อะไรสักอย่างที่แก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ฝ้ายได้

ที่วลีรัตน์คลีนิกฝ้ายเจอคุณหมอกวางค่ะ ดีใจนิดนึงค่ะ เพราะได้ยินชื่อเสียงของคุณหมอกวางมาสักพักแล้วค่ะเรื่องร้อยไหม แต่ตอนนั้นฝ้ายก็ยังไม่ได้คิดจะร้อยไหมหรอกนะคะ คิดไปถึงการฉีดฟิลเลอร์ หรือว่าโบอะไรพวกนี้มากกว่า แต่พอได้คุยกับคุณหมอกวาง คุณหมอกวางบอกว่า ลองร้อยไหมดูมั้ย เพราะว่าอายุก็ร้อยไหมได้ ฮ่าๆ ฝ้ายก็ยังไม่แน่ใจ
แต่คุณหมอบอกฝ้ายว่า ไหมจะยกหน้าขึ้นไป แล้วร่องมุมปากที่ตกลงทำให้เวลายิ้มเป็นร่องก็จะดีขึ้นด้วย แทบจะไม่เห็นเลย คุณหมอว่าอย่างนั้นนะคะ ตอนแรกฝ้ายก็ลังเล เพราะอย่างที่บอกตอนแรกว่าไม่ได้คิดจะร้อยไหม คิดว่าจะเติมฟิลเลอร์ด้วยซ้ำ แต่คุณหมอบอกว่าถ้าจะแก้ทั้งสองปัญหา ร้อยไหมมรกตน่าจะเหมาะที่สุด เอาล่ะ! ไหนๆก็ไหนๆละ เพราะยังไงฟิลเลอร์มันก็ช่วยแก้ปัญหาให้ได้แค่แป๊บเดียว ก็ขอลองร้อยไหมมรกตดูแล้วกันนะ

คุณหมอกวางอธิบายเพิ่มเติมนิดหน่อยว่า ฝ้ายต้องร้อยไหมทั้งหมดสามเส้น ข้างที่มีปัญหาจะร้อย 2 เส้น เพื่อยกมุมปากด้วย เก็บกรอบหน้าด้วย อ้อ! คุณหมอยังให้ฝ้ายดูใบหน้าเพิ่มเติมว่าฝ้ายหน้าเบี้ยวด้วย เห็นค่อนข้างชัดเหมือนกัน แต่ด้วยความเป็นคนตัวเล็กและผมยาวก็อาจจะไม่ทันได้สังเกตตัวเอง ซึ่งไหมตัวนี้พอร้อยเข้าไปแล้วจะช่วยเรื่องนี้ได้ด้วย
คุณหมอสรุปให้ฝ้ายฟังก่อนออกจากห้องว่าไหมมรกตเป็นไหมเส้นใหญ่ รับรองว่าจะแก้เรื่องร่องมุมปากได้ รวมถึงยกกระชับหน้าด้วย งานนี้ฝ้ายก็ต้องมาลุ้นเอาค่ะว่าจะออกมาจริงอย่างที่คุณหมอว่าหรือเปล่า เพราะเห็นที่อื่นเขาต้องร้อยกันสิบยี่สิบเส้น แต่ไหมมรกตนี่สามเส้นอยู่เลยค่ะ คุณหมอบอก


ก่อนออกจากห้องคุณหมอกวางอธิบายขั้นตอนการทำแบบคร่าวๆ คือจะต้องมีการแปะยาชา และฉีดยาชาเพิ่มเติม คุณหมอกวางถามฝ้ายเรื่องแพ้ยาชา ฝ้ายก็ส่ายหน้าเลยค่ะ ไม่มีอาการแพ้ยาชาอะไรทั้งสิ้นสามารถทำได้สบายๆอยู่แล้ว คุณหมอเลยให้พี่พนักงานพาฝ้ายไปแปะยาชาที่ห้องทรีทเมนต์ก่อน
หลังปรึกษาคุณหมอกวาง น้องพนักงาน ได้พาคุณฝ้ายไปแปะยาชาไว้ก่อน เพื่อลดการสัมผัสของเข็มกับผิวหน้า จากนั้นก่อนทำคุณหมอกวางจะฉีดยาชา เพื่อให้การร้อยไหม Emerald เป็นไปอย่างสะดวกมากขึ้น ซึ่งขั้นตอนการร้อยไหมจะใช้เวลาที่ 20 นาทีโดยประมาณ
ระหว่างทายาชาฝ้ายก็นั่งเล่นมือถือกับเพื่อนรอไป แอบรอนานนิดนึง เพราะคุณหมอกวางค่อนข้างฮอต ลูกค้าเยอะมาก ฝ้ายทำที่สาขาสยามนะคะ
ลองแอบๆถาม พี่พนักงานบอกว่า ถ้าวันไหนคุณหมอกวางเข้า คนจะเยอะมาก เรียกว่าเต็มสาขาเลยทีเดียว แอบปลื้มนิดนึงค่ะ เพราะได้ทำกับคุณหมอชื่อดัง เราก็ปลื้มมอ่ะเนอะ เป็นธรรมดา


ราวๆ 1 ชั่วโมง คือรอนานนิดนึงค่ะ เพราะคุณหมอคิวเยอะจริงๆ แล้วฝ้ายไม่ได้นัดล่วงหน้าด้วย แต่ได้ทำกับคุณหมอกวางก็ถือว่าคุ้มแล้วค่ะ ก็เข้ามาในห้องคุณหมอ คุณหมอก็เอาเส้นไหมให้ดู อธิบายอีกนิดหน่อย แต่จำรายละเอียดไม่ได่เท่าไหร่ ขอโทษเพื่อนๆด้วย
เอาเป็นว่าเจ้าไหมตัวนี้ช่วยยกระชับ แก้ร่องมุมปาก แก้เรื่องหน้าเบี้ยวของฝ้ายด้วย คุณหมอก็ฉีดยาชาให้ แบบเจ็บจี๊ดขึ้นมาตามประสาเหมือนมดกัดค่ะ แต่พอชาแล้วก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว คุณหมอก็ร้อยไหมเข้าไปเลย วูบเดียว มันจะตุ่ยๆที่หน้าเลย คือเรารู้สึกว่ามันตุ่ยเพราะยาชา

หลังร้อยไหมไปข้างนึงคุณหมอก็ให้ดู ฝ้ายชอบมากเลยค่ะ อันนี้ชอบจริงๆ ไม่ได้เวอร์ คือหน้ามันตึงเรียวขึ้นไปเลย ดูได้รูปมากๆ จะไม่ชอบได้ยังไงจริงมั้ย ก่อนที่คุณหมอจะย้ายมาทำอีกข้าง คุณหมอบอกฝ้ายด้วยว่า เดี่ยวฝ้ายต้องกินยานิดนึงนะ เพราะเป็นคนเขียวง่าย ช้ำง่าย หลังทำเลยมีจุดเขียวนิดๆ นิดเดียวจริงๆค่ะ และมีอาการบวมยาชาเล็กน้อย แทบมองไม่เห็นเลย เอาผมปิดๆไว้ แล้วก็เหมือนไม่มีอะไรแล้วค่ะ ซึ่งฝ้ายประทับใจมากๆ เพราะมันดูเหมือนเราแวะมาทำสวยแล้วไปทำอย่างอื่นต่อได้ ไม่ต้องเสียเวลาชีวิตพักฟื้นอย่างนี้น่ะค่ะ



หลังทำคุณหมอให้ยามารับประทานด้วยค่ะ บอกเลยว่าชอบและประทับใจมาก รู้สึกว่าความสวยไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ต้องบาดเจ็บอะไร ขอบคุณคุณหมอกวางและวลีรัตน์คลีนิกมากจริงๆค่ะ เพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะลองทำก็ลองสอบถามข้อมูลที่วลีรัตน์คลีนิกได้เลยนะคะ วันนี้ฝ้ายขอตัวก่อนนะคะ บ๊าย บายค่า
สนใจสอบถามการร้อยไหมมรกตได้ที่วลีรัตน์คลีนิก
สอบถามได้ที่ LINE : @WALEERAT
FACE BOOK :
ลดความหย่อนคล้อย