เติมหน้าผากวิธีไหนดี คงเป็นคำถามที่สาว ๆ ทุกคนต้องค้นคว้าหาคำตอบก่อนจะเริ่มคิดที่จะเติมหน้าผากไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำ ผลลัพธ์ ราคา รวมไปถึงฝีมือความถนัดของคุณหมอแต่ละท่านด้วย
วันนี้ วลีรัตน์ มี 5 ไหม 5 สไตล์การเติมหน้าผากมาฝากสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้หน้าผากแต่ยังตัดสินใจเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองไม่ได้ซักที
🤔เหมาะกับใคร: คนที่ต้องการเพิ่ม Volume เยอะๆ
🧐 บริเวณ: หน้าผาก แก้ม ขมับ ร่องแก้ม ใต้ตา คาง
⚙️กลไก: เติมเต็ม ด้วยสาร Hyaluronic Acid (HA) สังเคราะห์ขึ้นเพื่อทดแทนคอลลาเจนในผิวที่เริ่มสูญเสียลงตามวัย
🤔ข้อดี: เจ็บน้อย ตัวยากระจายทั่วแม้บริเวณเล็กๆ อยู่ได้นาน ต้องการวอลลุ่มเยอะ ๆ
🤔ข้อเสีย: ไม่ช่วยเรื่องการกระชับผิวอาจมีบวมเล็กน้อยหลังทำ ไม่กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
💖ผลลัพธ์: หลังทำทันที
👍เทคนิค: ฉีดเติมเฉพาะจุด
💉ยาชา: ฉีดเฉพาะจุด
⏰ระยะเวลาทำ: 30-45 นาที
🤕การพักฟื้น: บวมยาชา 1-3 วัน
🗓️อยู่ได้นาน: 8-12 เดือน
😱ความเจ็บ: น้อยมาก
💵ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง: 25,000-50,000 บาท
หลังทำหน้าผากดูมีวอลลุ่ม รับกับใบหน้า ดูอวบอิ่มขึ้นหลังทำทันที
🤔เหมาะกับใคร: คนที่ไม่ต้องการใช้ ฟิลเลอร์ ไม่ต้องการเจอคลำเจอก้อนใต้ผิว ต้องการความเป็นธรรมชาติ
🧐 บริเวณ: หน้าผาก แก้ม ขมับ ร่องแก้ม ใต้ตา
⚙️กลไก: จะทำหน้าที่เติมเต็มและปรับรูปหน้าเหมือนฟิลเลอร์ทุกประการเพียงแต่ตัวสารจะมีเนื้อนิ่ม ละเอียดและบางเบากว่าฟิลเลอร์ กระจายตัวแทรกซึมในชั้นผิวได้เร็ว ไม่จับตัวเป็นก้อน
🤔ข้อดี: ไม่อุดตันในเส้นเลือด ลดการจับตัวเป็นก้อน ตัวสารเนื้อบางละเอียด ได้งานผิวอย่างชัดเจน
🤔ข้อเสีย: ปั้นทรงได้ไม่มาก ประมาณ 50 % ของฟิลเลอร์
💖ผลลัพธ์: หลังทำทันที
👍เทคนิค: ฉีดเติมเฉพาะจุด
💉ยาชา: ฉีดเฉพาะจุด
⏰ระยะเวลาทำ: 30-45 นาที
🤕การพักฟื้น: บวมยาชา 1-3 วัน
🗓️อยู่ได้นาน: 1 ปี
😱ความเจ็บ: น้อยมาก
💵ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง: 15,000-35,000 บาท
หลังเติมหน้าผากจะได้ วอลลุ่มเเบบเป็นธรรมชาติ ดูมีมิติ ผิวช่ำน้ำดูสุขภาพดี
🤔เหมาะกับใคร: ผู้ที่ไม่ต้องการฉีดไหม ร้อยไหม หรือฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็ม ต้องการผลลัพธ์นานกว่าฟิลเลอร์ สร้างผิวจริง ลดร่องลึก
🧐 บริเวณ: หน้าผาก เปลือกตาบน แก้ม ร่องแก้ม ใต้ตา คอ มือ
⚙️กลไก: การนำวัสดุเส้นไหม PDO มาปั่นละเอียดเป็นผง หลอมรวมกับละอองไข่มุก และนำไปผสม Solution ในกลุ่มกระตุ้นสร้างระดับเซลล์ ฟื้นฟูผิว
🤔ข้อดี: ไม่บวมช้ำ อยู่ได้นานกระจายตัวยาได้ทั่วถึงแม้ในบริเวณเล็ก ผิวสร้างใหม่ได้ด้วยตัวเองได้ผลกระชับที่ใกล้เคียงกับการร้อยไหม และเติมเต็มเทียบเท่าฟิลเลอร์
🤔ข้อเสีย: บริเวณที่ Sagging มากๆ จำเป็นต้องใช้การร้อยไหมร่วมด้วย
💖ผลลัพธ์: หลังทำทันที
👍เทคนิค: ฉีดเติมเฉพาะจุด
💉ยาชา: ฉีดเฉพาะจุด
⏰ระยะเวลาทำ: 30-45 นาที
🤕การพักฟื้น: บวมยาชา 1-3 วัน
🗓️อยู่ได้นาน: 5 ปี
😱ความเจ็บ: น้อยมาก
💵ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง: 15,000-50,000 บาท
หลังเติมหน้าผาก ตึงกระชับ ลบเลือนริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวแน่นขึ้น ผลลัพธ์สูงสุด 3-5 ปี
🤔เหมาะกับใคร: ผู้ต้องการต้องการ ลบเลือนริ้วรอย ต้องการดูอ่อนกว่าวัย
🧐 บริเวณ: หน้าผาก หว่างคิ้ว หางตา แก้ม ร่องแก้ม ร่องมุมปาก กรอบหน้า
⚙️กลไก: เมื่อเส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นใต้ชั้นผิวหนัง ร่างกายจะทำการรักษาตัวเองโดยกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อเติมเต็มร่องลึก ลดความหย่อนคล้อย
🤔ข้อดี: ไม่กระจายตัว เหมาะกับบริเวณที่ต้องการยกกระชับมาก และสร้างผิวใหม่ได้ด้วยตัวเอง
🤔ข้อเสีย: หากในบริเวณกว้าง การฉีดไหมจะไม่สามารถทำการเติมเต็มได้มากเมื่อเทียบกับฟิลลเอร์
💖ผลลัพธ์: หลังทำทันที
👍เทคนิค: ฉีดเติมเฉพาะจุด
💉ยาชา: ฉีดเฉพาะจุด
⏰ระยะเวลาทำ: 30-45 นาที
🤕การพักฟื้น: ไม่มี
🗓️อยู่ได้นาน: 5 ปี
😱ความเจ็บ: ปานกลาง
💵ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง: 15,000-50,000 บาท
หลังเติมหน้าผาก ด้วยวิธีนี้ คืนความอ่อนเยาว์ นานถึง 5 ปี แก้ไขปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างเนื้อจริง ผิวแน่นกระชับ
🤔เหมาะกับใคร: ผู้ต้องการต้องการ ลบเลือนริ้วรอย ต้องการดูอ่อนกว่าวัย
🧐 บริเวณ: ทั่วทั้งใบหน้า
⚙️กลไก: ดูดไขมันส่วนเกิน จากร่างกายนำมาคัดแยกเฉพาะเชลล์ที่ดี โดยการนำชั้นพลาสม่า และ นำมาฉีดในส่วนต้องต้องการจะเติม
🤔ข้อดี: ดูเป็นธรรมชาติ ผิวมี Volume ไม่ระคายเคืองหรือเกิดอาการแพ้เพราะเป็นไขมันตัวเอง
🤔ข้อเสีย: เจ็บ เพราะต้องดูดไขมันส่วนเกิน และ ราคาสูง บางครั้งไขมันที่ดูดมาติดไม่ทน ต้องเติมเกิน 30% เผื่อตอนยุบตัวของไขมัน
💖ผลลัพธ์: หลังทำทันที
👍เทคนิค: ฉีดเติมเฉพาะจุด
💉ยาชา: ฉีดเฉพาะจุด หรือ ดมยา
⏰ระยะเวลาทำ: 30-45 นาที
🤕การพักฟื้น: บวมยาชา 7-14 วัน
🗓️อยู่ได้นาน: 1-2 ปี
😱ความเจ็บ: เจ็บ (เฉพาะจุดที่โดนดูดไขมันส่วนเกิน
💵ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง: 70,000-120,000 บาท
ผิวมี Volume ริ้วรอย ร่องลึก ดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูเด็กลง แต่อยู่ได้ไม่นาน