หลายคนคงสงสัยระหว่าง สารเติมเต็ม กับ ร้อยไหม
เพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตา ได้จริงหรือ ?
ปัจจุบันการแก้ไขปัญหาเพื่อความงามมีได้หลากหลายวิธี เช่น การเติมสารเติมเต็ม หรือไหม หรือการใช้เครื่องหัตถการต่าง ๆ อาทิ เช่น ไฮฟู่ อัลเทอร่า หรือ แม้กระทั่ง เทออมาจ รวมไปถึงกลุ่มทรีทเมนต์ การสะกิดผิวใส เติมวิตามิน เครื่อง RF ก็สามารถตอบโจทย์ได้แตกต่างกัน ในวันนี้เราจะมาพูดถึงการ แก้ปัญหา โดยการใช้ ฟิลเลอร์ หรือ ร้อยไหม กันครับ
โดยรวมของปัญหาที่มี มาจากหลายสาเหตุ อาทิเช่น ริ้วรอย ร่องลึก หรือแม้กระทั่งการยุบตัวของชั้นคอลลาเจน และ อีลาสติน ของบริเวณนี้ รอยคล้ำสีผิวไม่สม่ำเสมอ ของผิวบริเวณใต้ดวงตา และ ถุงไขมัน ที่แสดงให้เห็นถึงความชราของบริเวณรอบดวงตา อาจทำให้ดวงตานั้นดูไม่สดใส ใบหน้าโดยรวมดูอิดโรย หรือ ส่งผลกระทบต่อโหงวเฮ้งโดยรวมก็เป็นได้
จะมาตอบคำถามจากที่ถูกถามเข้ามาเป็นจำนวนมาก หมอจึงขอยกตัวอย่างจากเคส ลูกค้าจริง มาเล่าให้ฟัง กันครับว่า ระหว่าง สารเติมเต็ม กับ ใช้วัสดุไหม จะช่วยแก้ ปัญหาได้อย่างไรบ้าง
จากเคสตัวอย่าง
เพื่อแก้ไขปัญหา
เป็นเพียงรูปภาพประกอบไม่ใช่เคสจริงของการรักษา
ความกังวล : ดิฉันอายุ 34 ปี และ ฉันมีความกังวลเรื่องปัญหาใต้ตา โดยเฉพาะการยุบตัว ดูเหมือนผิวมันยุบตัวลง เป็นแอ่ง มีลักษณะเว้า ส่วนความหมองคล้ำ ฉันกังวลเพียงเล็กน้อย และ เริ่มมีร่องน้ำตา แต่มันมีความไม่เติมเต็ม เสียมากกว่า ฉันอยากให้อยากมันรู้สึก เติมเต็มเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้ฉันรู้สึกลำบากใจ ใบหน้าดูโทรม เหมือนคนอดนอนตลอดเวลา แต่กลัว และ มีความกังวล เพราะฉันเคยได้ยิน เรื่องไม่ค่อยดีของการเติมเต็มมาบ้าง เติมแล้วต้องใช้อะไร? ฉันควรทำแก้มด้วยหรือไม่? และ ฉันอ่านข้อมูลในเน็ตมาเยอะมาก แต่ฉันไม่แน่ใจ ถึงวิธีการแก้ไขปัญหาของมัน หรือ จำเป็นไหมที่จะต้องศัลยกรรม เพื่อแก้ไขปัญหา ?
หมอขออนุญาตไขข้อสงสัย จากเคสตัวอย่าง
ว่าเกิดจากอะไร ?
สำหรับปัญหาใต้ตาส่วนใหญ่ เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุดังนี้
1.ปัญหาร่องน้ำตา สาเหตุเกิดจากส่วน Tear Through ที่อยู่ใกล้ร่องน้ำตา กับ Hollow Under Eye ตรงเบ้าตา เกิดการยุบตัวลงเมื่ออายุมากขึ้น อาจจะเป็นส่วนเดียวหรือทั้งสองส่วนก็ได้
2.เบ้าตาลึก ตาโหล สาเหตุเกิดจาก การยุบตัวของกระดูก และ การสลายตัวของเนื้อเยื่อ หากทีปัญหาผิวหนังบาง ร่วมด้วยก็ยิ่งทำให้ดูเห็นชัด ดูโทรม และ เกิดสีคล้ำร่วมกับแสง กระทบตามมุมลึกแล้ว ย่ิงทําให้ดูเป็นเงาคล้ำชัดขึ้น
3.ริ้วรอย รอยเหี่ยว สาเหตุเกิดจาก วัย และ คุณภาพของผิวหนังเป็นหลัก เมื่ออายุที่มากขึ้นประกอบกับ โดนแสงแดด หรือ แสงจากจอคอมพิวเตอร์ จอมือถือ เป็นเวลานาน จะส่งผลให้โครงสร้างใต้ผิวหนัง เกิดการเสื่อม และ หย่อนยานมากขึ้นโครงสร้างไขมัน และ เนื้อเยื่อเกี่ยวพันจะฝ่อแบนลง
4.ถุงไขมัน (Baggy EyeLid) ถุงไขมัน ยื่นปูดออกมามากขึ้น (Herniation) ทําให้เห็นเป็นถุง ลักษณะเป็นก้อน จะโตมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับ ปริมาณไขมันที่อยู่ในตําแหน่งนั้น ๆ ร่วมกับสภาวะความหย่อนยาน
ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้ จำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์ใบหน้าจริง โดยละเอียด ว่าปัญหา ที่เกิดขึ้นเหมาะสมกับการแก้ไขอย่างไร จึงจะทำให้ผลลัพธ์เป็นที่หน้าประทับใจมากที่สุด หรือ ไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตเป็นอย่างไร เพื่อให้ไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ หรือ ส่งผล ให้ผลลัพธ์ยาวนานที่สุด ระหว่าง สารเติมเต็ม กับ ใช้วัสดุไหม จะช่วยแก้ไข ปัญหาได้อย่างไรบ้าง
จากเคสตัวอย่าง
เบ้าตาลึก ร่วมกับ รอยคล้ำ
วิธีแก้ไข ที่คุณหมอเลือกใช้ “3 วิธี”
1.แก้ไขด้วยสารเติมเต็ม คุณหมอ เลือกวางผลิตภัณฑ์ที่ผิวชั้นลึก เหนือขอบเบ้าตา ด้วยเข็มปลายทู่ เพื่อทดแทนส่วนกระดูก และ เนื้อเยื่ออ่อนที่ยุบตัวลงเมื่ออายุมากขึ้น ในส่วนนี้หลายคนมักเข้าใจผิด ว่ามันคือการเติมแก้ม ซึ่งองศาในการเปิดเข็มนั้น ไกลจากดวงตา 5 – 10 cm. ในบางราย อยู่เหนือโหนกแก้มเพียงเล็กน้อย โดยผลิตภัณฑ์อยู่ได้ 12 – 24 เดือน
2.การร้อยไหม ที่วลีรัตน์คลินิก มีวัสดุไหม ให้เลือกใช้หลายชนิด เพราะฉะนั้น คุณหมอจะเลือกวัสดุไหมคุณภาพพิเศษ ในการใส่เข้าไป เติมเต็มร่องใต้ตา ช่วยเติมเต็ม และ กระตุ้นสร้าง คอลลาเจน ไหมสลายหมด 100% โดยผลิตภัณฑ์อยู่ได้ 18 – 24 เดือน
3.การฉีดไหมน้ำ ที่วลีรัตน์คลินิก เลือกใช้ไหมน้ำที่ใช้นวัตกรรม และ ส่วนผสม ที่ดีในการผลิต มีชื่อเรียกว่า PEARL POWDER โดยคุณหมอเลือกใช้เติมเต็มผิวชั้นบน ลดรอยหมองคล้ำ และ ฟื้นฟูคุณภาพผิว ซึ่งผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนานกว่า เมื่อเทียบกับ สารเติมเต็ม ชนิดเนื้อบางเบาพิเศษ (4-6เดือน) ที่ช่วยเติมเต็ม ลดเลือนริ้วรอย และ รอยหมองคล้ำ บริเวณใต้ดวงตา
จากเคสตัวอย่าง แก้ไขปัญหา
ด้วยการ Combine techniqu
ภาพลูกค้าที่เข้ารับบริการจริงที่ วลีรัตน์คลินิก ซึ่งผลลัพธ์การรักษาขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคนไข้เป็นสำคัญ และ ขึ้นอยู่กับการดูแล สภาพผิวของแต่ละบุคคล