Reju MSC ตัวช่วยชะลอวัย ฟื้นฟูผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ด้วยสเต็มเซลล์
Reju Mesenchymal stem cells หรือ Reju MSC คือตัวช่วยในการทำหน้าที่ซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ชนิดต่างๆ ที่มีสภาพเสื่อมหรือหมดสภาพให้สามารถกลับมาทำงานได้ดังเดิม โดยการไปกระตุ้นเซลล์ในร่างกายให้เพิ่มจำนวนการแบ่งตัวให้มากยิ่งขึ้น และเมื่อร่างกายมีจำนวนเซลล์ใหม่ที่เข้าไปทดแทนเซลล์เก่าที่ตายไปก็จะสามารถฟื้นฟูทำให้เซลล์เหล่านั้นสามารถกลับมาใช้งานได้ดังเดิม สำหรับใครที่เจอปัญหาผิวหน้าเสื่อมสภาพ ต้องการกระตุ้นเซลล์ ฟื้นฟูผิวหน้าให้อ่อนเยาว์ การใช้สเต็มเซลล์หน้าใสเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสเต็มเซลล์มาให้ได้อ่านกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสเต็มเซลล์กับการแพทย์ สเต็มเซลล์กับความงาม รวมถึงเรื่องที่ควรรู้ทั้งหมด
Stemcell คืออะไร รู้จักเซลล์ที่ช่วยย้อนวัยให้ผิว
สเต็มเซลล์ (Stem Cell) หรือเซลล์ต้นกำเนิดคือ เซลล์ธรรมชาติที่สร้างขึ้นหรือสามารถหาได้จากเซลล์ของร่างกาย สเต็มเซลล์จะเป็นเซลล์ตัวอ่อนที่ยังไม่มีหน้าที่เฉพาะเจาะจง โดยเริ่มต้นจากเซลล์เดียวที่มีการผสมพันธุ์ระหว่างเพศผู้และเพศเมีย จากนั้นจึงพัฒนาไปเป็นหลายเซลล์ และพัฒนาอีกไปเป็นอวัยวะ เพื่อให้สามารถทำหน้าที่อย่างเฉพาะเจาะจงได้ ซึ่งเซลล์ที่เป็นเซลล์ต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดนี้เรียกว่า “สเต็มเซลล์” สามารถแบ่งตัวได้อย่างไม่จำกัด และสามารถเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ เพื่อทดแทนเซลล์ที่เสื่อมหรือตายลงได้เกือบทุกชนิดของร่างกาย โดยสามารถแบ่งเซลล์ตามแหล่งที่ได้มาเป็น 2 ชนิดคือ
- เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวอ่อนมนุษย์ (Embryonic Stem Cell)
เซลล์ต้นกำเนิดในระยะนี้จะมีอายุเพียง 3-5 วันหลังการปฏิสนธิ แต่สามารถเจริญแบ่งตัวได้อย่างไม่จำกัดและเติบโตไปเป็นเซลล์ร่างกายที่ทำหน้าที่เฉพาะเจาะจงได้ทุกชนิด - เซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อที่โตเต็มวัย (Adult Stem Cell)
คือ เซลล์ต้นกำเนิดที่เก็บจากเนื้อเยื่อที่โตเต็มวัย เช่น จากไขกระดูก เลือด ผิวหนัง ฟันน้ำนม เป็นต้น ถึงแม้จะอยู่ในอวัยวะที่โตเต็มไว แต่เซลล์นี้ไม่สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์จำเพาะชนิดใดชนิดหนึ่งได้ หากแต่มีคุณสมบัติทดแทนตัวเองขึ้นมาใหม่ได้
และมีการจำแนกตามความสามารถในการนำไปพัฒนาได้อีก 3 ชนิด คือ
Totipotent cell
Totipotent cell คือ เซลล์ต้นกำเนิดในระยะแรกสุดที่ได้จากตัวอ่อน มีศักยภาพที่จะสามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดใดก็ได้แบบไม่จำกัด เช่น เซลล์ตัวอ่อนมนุษย์ เซลล์รอบแรกๆ ของการปฏิสนธิ เป็นต้น ถือเป็นเซลล์ที่มีศักยภาพสูงสุดในการพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดอื่นๆ
Multipotent/Unipotent cell
Unipotent cell คือ เซลล์ชนิดนี้มีความสามารถที่จำกัดเมื่อเทียบกับ Pluripotent cell เนื่องจากเป็นเซลล์ที่พัฒนาไปเป็นเซลล์หรืออวัยวะจำเพาะชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น เช่น เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตที่สามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์เม็ดเลือดได้ทุกชนิด เป็นต้น
Pluripotent cell
Pluripotent cell คือ เซลล์ต้นกำเนิดที่พบต่อมาจากระยะ Totipotent cell โดยได้มากจากเซลล์ต้นกำเนิดโตเต็มวัยบางประเภท เช่น จากไขกระดูก เลือดสายรก ซึ่งมีความสามารถพัฒนาเปลี่ยนไปเป็นไเซลล์อื่นๆ ได้หลายแบบ แต่ส่วนใหญ่เป็นเนื้อเยื่อต่างๆ ของสิ่งมีชีวิต
Stemcell ได้มาจากแหล่งไหนบ้าง แตกต่างกันอย่างไร
สเต็มเซลล์มีหน้าที่สำคัญคือการเพิ่มจำนวน โดยการแบ่งตัวและพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปเป็นเซลล์ชนิดต่างๆ ของร่างกาย เพื่อซ่อมแซมและทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพ โดยปกติแล้วร่างกายของคนเรานั้นจะมีสเต็มเซลล์อยู่แล้ว ซึ่งสำหรับสเต็มเซลล์ที่ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์นั้นจะมาจากหลายรูปแบบ เช่น จากการใช้เซลล์ของเราเอง (autologous), การใช้เซลล์ของคนอื่น (allogeneic), การใช้เซลล์ของสัตว์ (xenotherapy) หรือ การใช้ไขกระดูก (bone marrow) ดังนี้
เซลล์ของเราเอง (Autologous)
การปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ที่ได้จากเซลล์ของเราเอง เป็นการเก็บเซลล์ต้นกำเนิดมาจากเซลล์ของผู้ใช้งานเอง โดยจะเก็บเซลล์บริเวณเนื้อเยื่อไขมัน Adipose Tissue ซึ่งมีศักยภาพฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพในร่างกาย
เซลล์ของคนอื่น (Allogeneic)
การใช้สเต็มเซลล์ที่ได้จากผู้อื่นนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะนำมาจากพี่น้องที่มาจากพ่อแม่เดียวกัน แต่บางกรณีก็มาจากคนอื่นได้ หากมีไขกระดูกที่เข้ากันได้ดี โดยจะเก็บได้จากเนื้อเยื่อสายสะดือ Cord Tissue เนื้อเยื่อหุ้มรก Amnion Tissue และเลือด ซึ่งมักจะถูกนำมาใช้ในการฟื้นฟูโรคเกี่ยวกับประสาทและสมอง
เซลล์ของสัตว์ (Xenotherapy)
สเต็มเซลล์ที่ได้จากสัตว์ที่อยู่ในอายุครรภ์ระยะ Blastocyst เช่น Embryonic stem Cell ซึ่งได้มาจากตัวอ่อนที่เกิดการปฏิสนธิเรียบร้อยแล้วและมีอายุเพียง 3-5 วันหลังการปฏิสนธิเท่านั้น
ไขกระดูก (Bone marrow stem Cell)
สเต็มเซลล์ที่ได้จากไขกระดูก ใช้ในการปลูกถ่ายไขกระดูก ซึ่งเซลล์ต้นกำเนิดไขกระดูกนี้สามารถได้มาจากตัวเราเอง หรือมาจากผู้อื่นที่มีไขกระดูกเข้ากันได้จากธนาคารสเต็มเซลล์
Stemcell มีคุณสมบัติที่ช่วยเรื่องอะไรบ้างนะ
ในปัจจุบันสเต็มเซลล์นั้นถือได้ว่ามีประโยชน์มากมาย โดยนอกจากจะถูกนำไปใช้ในทางการแพทย์แล้วนั้น สเต็มเซลล์ยังได้ถูกนำมาใช้ในด้านความงามอีกด้วย
สเต็มเซลล์กับการแพทย์
สเต็มเซลล์ เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถแบ่งตัวได้ไม่รู้จักจบ จึงถูกนำมาศึกษา และวิจัย จนพบว่าสามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์อื่นๆ ได้อีกมากมาย นอกจากนี้สเต็มเซลล์ยังมีหน้าที่ในการสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ เพื่อทดแทนเซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพ หรือถูกทำลาย โดยจะเข้าไปทำหน้าที่แทนเซลล์เก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สเต็มเซลล์จึงสามารถใช้เพื่อรักษาและฟื้นฟูโรคร้ายต่างๆ ได้มากมาย เช่น กลุ่มโรคมะเร็งเม็ดเลือดทุกชนิดกลุ่มโรคไขกระดูกผิดปกติ โรคข้อเข่าอักเสบ (Osteoarthritis) โรคอัมพาต การบาดเจ็บที่คอและไขสันหลัง รวมถึงโรคแพ้ภูมิตัวเอง เป็นต้น
สเต็มเซลล์กับความงาม
ในด้านความงามนั้นก็นำ Stem cell มาใช้ในรูปแบบของการฉีด หรือที่เรียกว่าสเต็มเซลล์หน้าใส โดยที่นิยมนำมาใช้ในปัจจุบันได้แก่ เซลล์ต้นกำเนิดของเซลล์ร่างกายหรือ Mesenchymal stem Cells (MSCs) ซึ่งสามารถเก็บได้จากไขกระดูก เลือดจากรก ไขมัน เลือด หรือฟัน
โดย Mesenchymal Stem Cells หรือเซลล์ต้นกำเนิดชนิดมีเซนไคม์เป็นเซลล์อ่อนที่ไม่มีหน้าที่จำเพาะ สามารถแบ่งตัวและเพิ่มจำนวนได้ รวมถึงพัฒนาไปทดแทนเซลล์ต่างๆ ที่เสื่อมสภาพหรือหมดอายุ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างสารหลายชนิด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ และลดการอักเสบได้ จึงเหมาะกับการนำมาใช้ฉีด โดยใช้สเต็มเซลล์ฉีดหน้า เพื่อช่วยในการซ่อมแซมและฟื้นฟูความเสื่อมต่างๆ โดยสเต็มเซลล์จะเข้าไปทำหน้าที่ซ่อมแซม และเติมเต็มส่วนที่ร่างกายขาด ทำให้สภาพของผิวหน้าดูอ่อนเยาว์กว่าวัย อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ และช่วยให้ผิวมีความแข็งแรงมากขึ้น
Reju MSC Stemcell สามารถฉีดเข้าส่วนไหนของร่างกายได้บ้าง
การฉีด Reju Mesenchymal Stem Cell มีวิธีฉีดตามข้อมูลด้านล่าง ดังนี้
ฉีดเข้าผิวหน้าโดยตรง
การฉีดสเต็มเซลล์เข้าผิวหนังโดยตรง เป็นการฉีดเพื่อให้สเต็มเซลล์เข้าไปซ่อมแซม ฟื้นฟูผิวหนังที่เสื่อมสภาพ ซึ่งช่วยลดริ้วรอย ร่องลึกต่างๆ ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึงเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ และผิวกระจ่างใส โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลำคอ แก้ม และร่องแก้มใต้ตา เป็นต้น
ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำ
การฉีดสเต็มเซลล์เข้าทางหลอดเลือดดำ เป็นการฟื้นฟูและเสริมสร้างเซลล์ผิวพรรณให้กระชับเต่งตึง ปรับสมดุลผิว เพื่อให้ผิวแลดูกระจ่างใส เปล่งปลั่ง แข็งแรง อีกทั้งยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดผื่นแพ้ต่างๆ อีกด้วย
โดยการฉีดสเต็มเซลล์ทั้งสองวิธีนี้สามารถเพิ่มเซลล์ Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่ในการสร้างโปรตีน 2 ชนิด คือ คอลลาเจนและอิลาสตินให้กับผิวหนังของเรา จึงทำให้ผิวหนังยังมีความชุ่มชื้น ความแข็งแรง และความยืดหยุ่นคงอยู่
การฉีด Reju MSC stem Cell
ช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวได้อย่างไร กี่วันเห็นผล
MSC Stem cell ที่นำมาใช้ฉีดบริเวณใบหน้านั้นจะสามารถชะลอวัย ลดริ้วรอยที่เกิดจากอายุที่มากขึ้นได้ เมื่ออายุมากขึ้นอัตราการสร้างเซลล์ขึ้นมาทดแทนจะน้อยกว่าการที่เซลล์ถูกทำลาย เมื่อเราทำการฉีดสเต็มเซลล์เข้าไปในร่างกาย จะเป็นการใช้เพิ่มปริมาณเซลล์ในร่างกายและใช้เซลล์เหล่านั้นซ่อมเซลล์ส่วนที่มีการเสื่อมสภาพ ส่วนระยะเวลาที่เริ่มเห็นผลหลังจากการรักษาก็อยู่ที่ประมาณ 1-3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลด้วย หลังจากฉีดสภาพผิวก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ดังนี้
คืนความกระชับเต่งตึงให้กับผิว
ฟื้นฟูผิวให้ดูเรียบเนียน
และดูกระจ่างใส
ผิวแลดูอ่อนนุ่ม ชุ่มชื้น ฉ่ำวาว เปล่งปลั่ง
ชะลออายุผิว
การฉีด Reju MSC Stem Cell เหมาะกับใคร
การฉีด Reju MSC Stem cell เหมาะกับใคร
สำหรับการฉีด Reju MSC Stem cell นั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านผิวพรรณ ดังนี้
- ผู้ที่ต้องการลดริ้วรอยแห่งวัย
- ผู้ที่ต้องการให้สุขภาพดีผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย
- ผู้ที่ต้องการรักษาฟื้นฟูโรคทางข้อและกระดูก
เนื่องจากสเต็มเซลล์นั้นสามารถผลิตสารจำพวก Growth Factor ได้ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการซ่อมแซมและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ชนิดต่างๆ ในร่างกาย ฉะนั้นเมื่อฉีดสเต็มเซลล์เข้าไปภายในร่างกายแล้ว สเต็มเซลล์เหล่านั้นจะส่งผลให้เซลล์ร่างกายที่เสื่อมสภาพได้รับการซ่อมแซมและฟื้นตัวขึ้นมาได้
การฉีด Reju MSC Stem cell ไม่เหมาะกับใคร
โดยตามหลักปกติแล้ว การฉีดเซลล์กลับเข้าไปในร่างกายแม้จะเป็นเซลล์ของตนเองก็ตาม มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้ สำหรับคนบางกลุ่มจึงไม่เหมาะที่จะฉีด Reju MSC Stem cell
- ผู้ที่เป็นมะเร็ง เนื่องจากเซลล์บางชนิดนั้นเป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตได้ดีมากยิ่งขึ้น
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ภูมิต้านทานตัวเอง เพราะอาจจะมีภาวะแพ้จากการฉีดสเต็มเซลล์ได้
- ผู้ที่มีสภาพร่างกายไม่พร้อม ด้วยเหตุเพราะการฉีดสเต็มเซลล์นั้นจะส่งผลกระทบต่อร่างกายโดยตรง ฉะนั้นเมื่อผู้ทำการฉีดมีร่างกายที่ไม่พร้อมก็อาจส่งผลให้เกิดการป่วยหลังจากที่รับการฉีดได้
ด้วยเหตุนี้แล้วผู้ที่ตัดสินใจที่จะฉีดสเต็มเซลล์ควรผ่านขั้นตอนการตรวจสุขภาพและความสมบูรณ์ของร่างกายจากแพทย์อย่างละเอียดก่อนทุกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
ขั้นตอนการฉีด Reju MSC stem Cell
Step 1 ปรึกษาแพทย์
เพื่อทำการประเมินสภาพผิวในเชิงลึก ว่าต้องกำหนดจำนวนเซลล์ที่ต้องใช้ในการฉีดเท่าไร ซึ่งจำนวนเซลล์ที่ใช้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย
Step 2 ทำความสะอาดใบหน้ากำจัดสิ่งสกปรก
Step 3 แปะยาชา
โดยรอประมาณ 30 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์ หลังจากนั้นเปิดผิวด้วย Nano Electrical IMA เพื่อช่วยให้สเต็มเซลล์เข้าไปฟื้นฟูเซลล์เก่าได้อย่างเต็มที่
Step 4 ฉีด MSC สเต็มเซลล์เข้าสู่ผิว
เพื่อเพิ่มจำนวนสเต็มเซลล์
Step 5 พักรักษารอยเข็มด้วยการประคบเย็น
การฉีด Reju MSC Stem cell มีผลข้างเคียงไหม
การฉีดสเต็มเซลล์นั้นอาจจะก่อให้เกิดผลข้างเคียงแก่ผู้ที่ฉีดได้ ดังนี้
- โดยเกิดอาการแพ้จากการฉีดสเต็มเซลล์
- เกิดการต่อต้านสเต็มเซลล์โดยภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- เกิดการก่อตัวของเนื้องอก เนื่องจากการใช้สเต็มเซลล์ในบริเวณที่เซลล์ไม่เคยอาศัยอยู่ ส่งผลให้เกิดการแบ่งเซลล์ที่มากเกินไป หรือไม่ได้ผลการรักษาตามต้องการ
สำหรับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้ที่ฉีดสเต็มเซลล์ทุกราย แต่ขึ้นอยู่กับแต่ละตัวบุคคลด้วยว่ามีอายุหรือสภาพร่างกายที่พร้อมมากพอหรือไม่
หาก ใช้ Stemcell คนอื่นมาฉีดได้ไหม อันตรายหรือเปล่า
ไม่เป็นอันตราย เพราะ MSC Stem cell สามารถฉีดข้ามคนได้ โดยไม่ก่อให้เกิดการปฏิเสธหรือต่อต้านเนื้อเยื่อในครั้งแรก เนื่องจากเป็นเซลล์ที่ยังไม่มีการแสดงออก จึงไม่กระตุ้นระบบภูมิต้านทานที่จะทำให้เกิดการต่อต้านได้ อีกทั้ง MSC Stem cell ยังมีคุณสมบัติที่สามารถยับยั้งเซลล์ที่ผิดปกติหรือจะกลายพันธุ์ได้อีกด้วย โดยต้องดำเนินการเพาะเลี้ยงเซลล์ในห้องทดลองที่ได้มาตรฐาน ได้รับการตรวจหาเชื้อโรคและฆ่าเชื้อเป็นอย่างดีเท่านั้น
ฉีด Stemcell ที่ Waleerat Clinic ดียังไง ราคาเท่าไหร่
Reju MSC Stem cell ของทาง Waleerat Clinic นั้นเป็นมากกว่าการรักษา เพราะมันคือการฟื้นฟู ตามแนวคิดที่ไม่ใช่แค่มุ่งรักษา แต่ป้องกันโรค ไม่ใช่แค่หน้าใสลดริ้วรอย แต่ช่วยฟื้นฟูชะลอวัยได้ของทางคลินิก โดยการฉีด Reju MSC Stemcell ของทาง Waleerat Clinic นั้นราคาเริ่มต้นเพียง 42,000 บาท/ขวดเท่านั้น
Before & After รวมรีวิวจากผู้ที่ฉีด Reju MSC ของวลีรัตน์คลินิก
Waleerat Clinic มีผู้มาเลือกใช้บริการโปรแกรมเสริมความงามต่างๆ หนึ่งในนั้นคือโปรแกรม Reju MSC Stem cell โดยท่านนี้คือผู้ที่เลือกใช้บริการโปรแกรมสเต็มเซลล์หน้าใสนี้ จะเห็นได้ว่าหลังจากที่ได้เข้ารับการบริการแล้วนั้นใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ ผิวหนังมีความกระชับเต่งตึงมากยิ่งขึ้น ทั้งยังทำให้ผิวเรียบเนียนเปล่งปลั่ง และดูกระจ่างใสมากกว่าตอนแรกอีกด้วย
FAQ
สำหรับผู้ที่มีคำถามเกี่ยวกับการฉีดสเต็มเซลล์ ทาง Waleerat Clinic ได้รวบรวมคำถามที่พบได้บ่อยมาตอบให้คลายสงสัยกันแล้ว
ได้ เพราะสเต็มเซลล์สามารถทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพหรือตายไปแล้วของร่างกายได้ แต่หากต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน ควรใช้การเลเซอร์ร่วมด้วย
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป และผู้มีสภาพผิวที่อ่อนแอ
หลังจากฉีดสเต็มเซลล์ก็จะสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ 1-3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายแต่ละบุคคลด้วย
สามารถฉีดสเต็มเซลล์ซ้ำได้ทุกๆ ครึ่งปี – 1 ปี