เจาะลึก Thermage ตา : เครื่องเดียวที่แก้ปัญหาเรื่องเปลือกตาโดยไม่ต้องผ่าตัด
การดูแลความงามและความอ่อนเยาว์ของใบหน้าเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาที่มักเป็นจุดแรกที่แสดงถึงอายุ
Thermage FLX Eye Tip เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหาเรื่องเปลือกตาและริ้วรอยรอบดวงตาโดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและผลลัพธ์ที่ยาวนานในการลดริ้วรอย ทำให้ Thermage FLX Eye Tip เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลผิวรอบดวงตาอย่างมีประสิทธิภาพ
3 Pain Points Why People Want to Do Thermage FLX Eye Tip
![A close-up image showing wrinkles and sagging skin around the eyes of a Korean individual. The style is clean, neat, with studio lighting, and a nature](https://waleeratclinic.com/wp-content/uploads/2024/05/DALL·E-2024-05-21-17.25.26-A-close-up-image-showing-wrinkles-and-sagging-skin-around-the-eyes-of-a-Korean-individual.-The-style-is-clean-neat-with-studio-lighting-and-a-natur-150x150.webp)
ริ้วรอยความหย่อนคล้อยรอบดวงตา
ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบริเวณรอบดวงตา เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังลดลง ทำให้เกิดริ้วรอยและผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่น
![under-eye bags and dark circles on a Korean woman aged 30](https://waleeratclinic.com/wp-content/uploads/2024/05/DALL·E-2024-05-21-17.30.12-A-close-up-image-showing-under-eye-bags-and-dark-circles-on-a-Korean-woman-aged-30.-The-style-is-clean-neat-with-studio-lighting-and-a-natural-rea-150x150.webp)
ถุงใต้ตาและความหมองคล้ำ
Thermage FLX Eye ช่วยลดถุงใต้ตาและปรับสีผิวรอบดวงตา โดยกระชับผิวและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดอาการบวมและความหมองคล้ำ
![long-lasting results of Thermage FLX Eye Tip](https://waleeratclinic.com/wp-content/uploads/2024/05/DALL·E-2024-05-21-17.33.47-A-clean-neat-studio-lit-and-natural-image-of-a-Korean-woman-aged-30.-The-image-should-showcase-the-long-lasting-results-of-Thermage-FLX-Eye-Tip-tre.webp)
ผลลัพธ์ที่ยาวนานและไม่ต้องผ่าตัด
Thermage Eye ให้ผลลัพธ์ยาวนาน 1-2 ปี โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น และไม่ต้องพักฟื้น จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ต้องการฟื้นฟูผิวรอบดวงตาโดยไม่ต้องใช้เวลานาน
สรุป
- Sculptra เป็น Collagen stimulator ตัวแรกของโลก และเป็นตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจาก US FDA ทำให้มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูงและผลลัพธ์ที่ได้ก็ดูเป็น ธรรมาชาติ รวมถึงไม่มีผลหรืออาการข้างเคียงใดๆ
- การฉีด Sculptra เป็นการฟื้นฟูสภาพผิวจากผิวชั้นลึก ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอยเห่งวัย ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนแลดูอ่อนเยาว์
- ต้องได้รับการแนะนำและดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงเพื่อผลลัพธ์ที่ดีและสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
เลือกหัวข้อที่สนใจ
sculptra คืออะไร
![ทำความรู้จัก Sculptra](https://waleeratclinic.com/wp-content/uploads/2023/06/sculptra_1-3-768x960.jpg)
Sculptra Filler คือ PLLA หรือ Poly-L-Lactic acid ได้รับการอนุมัติจาก FDA ในสหรัฐอเมริกา เป็นสารสังเคราะห์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายและช่วยฟื้นฟูโครงสร้างชั้นลึกของผิว
โดยเป็นการฉีดเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิวที่เรียกว่า แมคโครฟาจ มาช่วยในการทำงานทำให้คืนความอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
ซึ่งจะคงปริมาตรได้ดีกว่า Hyalyronic Acid ทั่วไปและ สลายตัวช้ากว่าทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานมีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นอื่นๆ รวมไปถึงช่วยลดเลือนริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
สำหรับใครที่เจอปัญหาผิวหน้าเสื่อมโทรม หมองคล้ำริ้วรอยเยอะ ต้องการที่จะหาตัวช่วยในการฟื้นฟูผิวหน้าให้อ่อนเยาว์ กระจ่างใส ไร้ริ้วรอยการฉีด Sculptra เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
sculptra ราคาเท่าไหร่
![](https://waleeratclinic.com/wp-content/uploads/2023/06/Sculptra_promotion-1-768x960.jpg)
Sculptra ราคาเริ่มต้น 25,000 บาท (ตัวยา 5 cc) ขวดละ 45,000 (10 cc)
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีมาก แนะนำฉีดต่อเนื่อง 3 ครั้ง โดยเว้นห่าง 4-6 สัปดาห์ต่อการฉีด 1 ครั้ง
sculptra galderma
![Sculptra ผ่าน อย. ไหม](https://waleeratclinic.com/wp-content/uploads/2023/06/Sculptra_final-768x960.jpg)
วลีรัตน์ คลินิก ใช้ Sculptra จากบริษัท Galderma (Thailand) ผู้นำเข้า Filler Restylane ในประเทศไทยซึ่งได้รับการอนุมัติจาก USFDA
ในสหรัฐอเมริกาและถูกใช้ทั่วโลกตั้งแต่ปี 1999 ดังนั้น มั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยได้
sculptra ทำงานอย่างไร
![sculptra คืออะไร](https://waleeratclinic.com/wp-content/uploads/2023/06/sculptra_2-1-768x960.jpg)
Sculptra vs Filler
![sculptra VS Filler](https://waleeratclinic.com/wp-content/uploads/2023/06/sculptra_compare-3-768x960.jpg)
sculptra เหมาะกับใคร
คนไข้ที่มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อยเช่น เวลาที่เราดึงผิวบริเวณแก้มออกมาแล้ว มันดึงออกได้เยอะมากแปลว่าผิวเรา ไม่เฟิร์ม เกิดจากคอลลาเจนในชั้นผิวเหลือน้อยลง
การฉีด Sculptra จะทำให้ สิ่งที่ยืดออกมาหดกลับสั้นเข้าไปหรือดึงผิวได้น้อยลงแปลว่าผิวจะเฟิร์มขึ้นและคนที่มีริ้วรอยบนใบหน้า เรียกว่า Statical คืออยู่เฉยๆก็ มีริ้วรอย
ซึ่งเกิดจากผิวหนังที่มันเหี่ยวย่นถ้าได้รับการ ฉีด Sculptra เข้าไป Skin Quality หรือว่า คุณภาพของผิวหนังจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและมีความยืดหยุ่นมีความตึงที่ดีขึ้น
หลังจากฉีด Sculptra เข้าสู่เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังแล้ว ตัวยาจะเริ่มกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ เติมเต็มช่องว่างที่ทำให้เกิดรอยพับและริ้วรอย
สารสำคัญใน Sculptra จะค่อยๆ ถูกดูดซึม และเริ่มทำงานอย่างเต็มที่ ในการส่งเสริมการสังเคราะห์เส้นใยคอลลาเจน โดยการเรียกเม็ดเลือดขาวที่เรียกว่า แมคโครฟาจ
มาช่วยในการทำงาน หลังจากนั้นการสร้างเนื้อเยื่อจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องให้ผลิตคอลลาเจนของตัวเองอีกครั้ง ทำให้คืนความอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ
Sculptra มาจากไหน
Sculptra คือสารที่เป็นส่วนประกอบของ Collagen ซึ่งสกัดมาจากพืช ปราศจากส่วนผสมจากสัตว์จึงใช้ในร่างกายมนุษย์ได้โดยไม่เป็นอันตรายและไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพ
ในปัจจุบันมีการนำมาใช้ในหลายอวัยวะ แม้แต่ใช้ทำเส้นเลือดหัวใจเทียมและสามารถนำมาฉีดเติมเต็มส่วนที่พร่องไปของใบหน้าได้ โดยสารนี้ไปกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ได้ซึ่งอยู่ได้กึ่งถาวร
Sculptra
ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
![ประโยชน์ของ sculptra](https://waleeratclinic.com/wp-content/uploads/2023/06/sculptra-website-01.webp)
ในปัจจุบันการฉีด Sculptra นั้นถือได้ว่ามีประโยชน์มากกว่า ฟิลเลอร์ เพราะช่วยปรับโครงสร้างใต้ชั้นลึกของผิวทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอยที่เกิดจากอายุและยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนคืนความอ่อนเยาว์
การเตรียมตัวก่อนฉีด Sculptra
การเตรียมตัวก่อนการฉีด Sculptra ต้องไม่ฉีดหรือทำหน้าด้วยหัตถการอื่นมาก่อน 4 สัปดาห์ รวมถึงควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด กลุ่มยาแอสไพรินอย่างน้อย 2 สัปดาห์
เพื่อป้องกันอาการฟกช้ำและงดวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา เป็นเวลา 2 สัปดาห์ รวมไปถึงควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3 วัน ก่อนการฉีด
ควรพักผ่อนให้เพียงพอและดูแลสุขภาพร่างกายให้อยู่ในสภาพปกติแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรงและไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
Sculptra
เห็นผลเมื่อไหร่
ผลลัพธ์หลังการฉีดจะยังไม่เห็นผลลัพธ์หลังทำในทันที เพราะตัวยาของ Sculptra จะค่อยๆเข้าไปทำปฏิกิริยาในใต้ชั้นผิวลึกทำให้จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังฉีดประมาณ 3 สัปดาห์
ในบางรายอาจมีอาการบวมประมาณ 3 วันเนื่องจากตัวยาถูกฉีดไปในใต้ชั้นผิวลึกหลังจากนั้นจะยุบลงและจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดหน้าจะเริ่มกระจ่างใส ไร้ริ้วรอย
ฟื้นฟูใต้ชั้นลึกของผิว
ลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า
ช่วยให้ใบหน้าสว่างกระจ่างใส
กระตุ้นคอลลาเจน
![ผลลัพธ์ sculptra](https://waleeratclinic.com/wp-content/uploads/2023/06/sculptra_3-1.webp)
Sculptra
Before and After
ผู้ที่เลือกใช้บริการฉีด PLLA Sculptra
หลังจากที่ได้เข้ารับการบริการแล้วนั้นใบหน้าจะแลดูอ่อนเยาว์ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวอย่างต่อเนื่องและเป็นธรรมชาติ
ส่งผลให้ใบหน้ายกกระชับรวมไปถึงร่องแก้ม ร่องมุมปากเต่งตึงมากขึ้น ริ้วรอยดูจางลง ผิวสว่างกระจ่างใส คืนความสมดุลให้ผิว
![Sculptra](https://waleeratclinic.com/wp-content/uploads/2023/06/Sculptra-768x768.jpg)
Sculptra
มีผลข้างเคียงไหม
อาการทั่วไปหลังการฉีดในช่วง 2 วันแรกจะมีอาการบวม แดง ช้ำ บริเวณที่ฉีดและมีอาการปวดเล็กน้อย ผลข้างเคียงอื่นๆ อาจมีก้อนเล็กๆใต้ผิวหนังแต่ไม่เป็นอันตรายหรือก่อให้เกิดการอักเสบแต่อย่างใด
ซึ่งอาการข้างเคียงหลังฉีด Sculptra ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลแนะนำให้นวดบริเวณที่ฉีดทุกวันหลังฉีดเป็นเวลา 5 วัน เพื่อให้อาการปวด บวม แดง ช้ำ ลดลง
ขั้นตอนการฉีด
Sculptra
![ขั้นตอนการฉีด Sculptra](https://waleeratclinic.com/wp-content/uploads/2023/06/Sculptra_Process-768x960.jpg)
1. แปะยาชา
ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์ หลังจากนั้นแพทย์ทำการเตรียม Sculptra ให้อยู่ในรูปแบบ Active form เพื่อพร้อมใช้งานและลดความรู้สึกระหว่างทำ
2. ฉีด Sculptra เข้าผิว
โดยใช้เทคนิคการฉีดแบบ Cross-hatching ลึกลงใต้ชั้นผิว 2 เซนติเมตร ซึ่งเป็นวิธีฉีด Sculptra ที่กระตุ้นคอลลาเจนได้ดีที่สุด
3. นวดแบบ Tripple 5
หลังจากการฉีดควรจะประคบเย็นเพื่อรักษารอยเข็มให้จางลงโดยจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล
เพื่อความปลอดภัยจากนั้นแนะนำให้นวดแบบ Tripple 5 (5-5-5) หมายถึง การนวดบริเวณที่ฉีด Sculpra ครั้งละ 5 นาที วันละ 5 ครั้ง เป็นเวลา 5 วันต่อเนื่องเพื่อป้องกันผลข้างเคียง เช่นการเกิดก้อนไม่เรียบเนียน
วิธีตรวจ Sculptra ของเเท้
เช็คสติ๊กเกอร์ข้างกล่อง
กล่องต้องอยู่สภาพสมบูรณ์ สติ๊กเกอร์ต้องไม่ถูกแกะ ขวดต้องเป็นสูญญากาศและมี PLLA เป็นผงอัดเเน่น ไม่มีการใส่น้ำมาก่อน เ
สเเกน QR CODE
ดาวโหลดแอพพลิเคชั่น Eztracker และสแกน Qr Code ข้างกล่องเพื่อเช็คว่าเป็นผลิตภัณฑ์หรือไม่
เช็คเลข อย.
เช็คเลขจดทะเบียนอย. ข้างกล่องที่เว็บไซต์ https://oryor.com/check-product-serial
มีเอกสารกำกับเครื่องมือเเพทย์
ในกล่องต้องมีเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ ซึ่งจะบอกส่วนประกอบของตัวยา คำแนะนำวิธีการฉีดและวิธีการเก็บรักษา
คำถามพบบ่อย
ทุกคำถามที่คุณสงสัยเกี่ยวกับ Sculptra Filler
ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวลึก เติมเต็มร่องลึกบนใบหน้า เพิ่มความสว่างกระจ่างใส กำจัดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยยกกระชับใบหน้า
ฉีดครั้งละ 5 -10 cc ขึ้นกับปัญหาผิวและบริเวณที่ต้องการแก้ไข หากฉีดทั่วหน้าแนะนำให้ฉีดทั้งขวด ( 10 cc) ควรฉีดติดต่อกันอย่างน้อย 3 ครั้งห่างกัน 4 – 6 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีมาก
หลังการฉีดอาจยังไม่เห็นผลลัพธ์หลังทำทันที เพราะตัวยาของ Sculptra จะเข้าไปทำปฏิกิริยาในใต้ชั้นผิวลึก ทำให้จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงได้หลังการฉีด
ประมาณ 3 สัปดาห์ ในบางรายอาจมีอาการบวมประมาณ 3 วันจากนั้นจะคอยยุบลงและเริ่มสังเกตเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจน
Sculptra แตกต่างจากฟิลเลอร์ ประเภทอื่นๆ ในหลายด้าน
กลไกการออกฤทธิ์ : ของ Sculptra มุ่งไปที่การรักษาต้นตอของการสูญเสียปริมาตรใบหน้า ซึ่งรวมถึงการสูญเสียกระดูก คอลลาเจน และไขมัน แทนที่จะเน้นเฉพาะบริเวณที่มีริ้วรอยและเส้นริ้ว ด้วยการส่งเสริมการเจริญเติบโตของคอลลาเจน Sculptra ช่วยในการฟื้นฟูปริมาณใบหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ส่วนประกอบ : ที่ออกฤทธิ์ของ Sculptra คือโพลี-แอล-แลคติกแอซิด ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นคอลลาเจน สารนี้กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้นและดูดซึมได้เต็มที่เมื่อเวลาผ่านไป ในทางกลับกัน สารเติมเต็มผิวหนังประเภทอื่นๆ มักประกอบด้วยกรดไฮยาลูโรนิก ซึ่งเป็นน้ำตาลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในร่างกาย
ระดับความลึก : Sculptra แตกต่างจากฟิลเลอร์อื่นๆ คือบริหารที่มากกว่าในชั้นหนังแท้ โดยเน้นเฉพาะบริเวณต่างๆ เช่น ร่องแก้มและร่องแก้ม ในขณะที่เติมปริมาณที่หายไปในแก้มด้วย
ระยะเวลาเห็นผล : เนื่องจากการผลิตคอลลาเจนจะค่อยๆ กระตุ้น ซึ่งอาจใช้เวลาหลายเดือนหลังฉีด อย่างไรก็ตาม ผลของ Sculptra สามารถคงอยู่ได้นานถึงสองปีหรือมากกว่า ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานกว่าฟิลเลอร์อื่นๆ ส่วนใหญ่
วิธีการรักษา : ของ Sculptra นั้นคล้ายกับวิธีการฉีดฟิลเลอร์ผิวหนังอื่นๆ โดยจะใช้เวลาน้อยกว่าครึ่งชั่วโมง ความสำเร็จของผลลัพธ์ที่ต้องการอาจจำเป็นต้องฉีดหลายครั้งโดยกระจายในช่วงหลายเดือน
ปริมาณของ Sculptra : ที่ต้องการนั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความหวั่นวิตกของแต่ละคน โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ขวดหนึ่งขวดต่ออายุการใช้งาน 10 ปีเพื่อเป็นแนวทางทั่วไป อย่างไรก็ตาม ปริมาณที่แน่นอนอาจผันผวนระหว่างสองถึงหกขวด ในทางตรงกันข้าม สารเติมเต็มทางผิวหนังชนิดอื่นจำเป็นต้องใช้เข็มฉีดยา 2 เข็มต่อครั้ง
ความถี่ : ของการรักษาด้วย Sculptra มักเกี่ยวข้องกับเซสชั่นเริ่มต้น 2-3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างระหว่าง 4 ถึง 8 สัปดาห์ โดยควรทำการบำรุงรักษาเป็นประจำทุกปีหรือทุก 2 ปี ในทางตรงกันข้าม สารเติมเต็มผิวหนังทางเลือกอาจจำเป็นต้องหยุดการรักษาเป็นระยะ 6 ถึง 12 เดือน
ผลข้างเคียง : เป็นที่ทราบกันดีว่า Sculptra ก่อให้เกิดผลข้างเคียงทั่วไป เช่น ความเจ็บปวด รอยแดง รอยช้ำ บวม และการก่อตัวของแกรนูโลมา ซึ่งเป็นก้อนเล็กๆ ใต้ผิวหนัง ผลข้างเคียงเหล่านี้เทียบได้กับที่พบในสารเติมเต็มผิวหนังประเภทอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
Sculptra และ Rejuran Healer
นี่คือความแตกต่างที่สำคัญระหว่างทั้งสอง:
ส่วนประกอบ: Sculptra ประกอบด้วยโพลีแล็คติกแอซิด (poly-L-lactic acid) ที่กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิวหนัง ในทางตรงกันข้าม Rejuran Healer ประกอบด้วยโพลีนิวคลีโอไทด์ (polynucleotides) ซึ่งเป็นเฟรกเมนต์ดีเอ็นเอที่ได้มาจากปลาแซลมอน โพลีนิวคลีโอไทด์เชื่อว่ามีผลฟื้นฟูบนผิวหนัง
วัตถุประสงค์: Sculptra ใช้สำหรับการฟื้นฟูปริมาณใบหน้าและริ้วรอย โดยแก้ไขการสูญเสียคอลลาเจนและการยุบตัวไขมันที่ใบหน้า ในทางตรงกันข้าม Rejuran Healer ใช้สำหรับการขจัดความเหี่ยวย่นและปรับปรุงสภาพผิว ช่วยลดริ้วรอยรอบดวงตา
ความลึกของการฉีด: Sculptra ฉีดลึกลงในชั้นผิวหนังแทนที่จะเป็นการฉีดบริเวณพื้นผิวเพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและฟื้นฟูปริมาณใบหน้า ในทางตรงกันข้าม Rejuran Healer ฉีดในระดับผิวหนังส่วนนอกเพื่อให้โพลีนิวคลีโอไทด์ส่งผลตรงไปยังพื้นที่เป้าหมาย
ผลลัพธ์และระยะเวลาที่ยืดหยุ่น: ผลลัพธ์จาก Sculptra เป็นผลเริ่มแรกช้ากว่า อาจใช้เวลาหลายเดือนเพื่อเห็นผลเต็มที่เนื่องจากการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องค่อนข้างช้า ผลจาก Sculptra สามารถยืดหยุ่นได้นานถึงสองปีหรือนานกว่านั่น ทางตรงกันข้าม Rejuran Healer ผลลัพธ์จะเห็นได้เร็วกว่า ภายในไม่กี่สัปดาห์ ผลลัพธ์จาก Rejuran Healer อาจสัมพันธ์กับระยะเวลา 12 เดือน
กระบวนการรักษา: Sculptra และ Rejuran Healer ต้องการการรักษาหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด รักษา Sculptra โดยทั่วไปประกอบ 2 – 3 ครั้งห่างกันหลายสัปดาห์ ส่วน Rejuran Healer อาจต้องการการรักษาหลายครั้งขึ้นอยู่กับความต้องการของบุคคล
ผลข้างเคียง: ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของ Sculptra รวมถึงความเจ็บปวดที่จุดฉีด แดงขึ้น ฟกช้ำ บวม และอาจเกิดตุ่มระเบิด (granulomas) ถ้าคุณเลือกแพทย์ที่มีความชำนาญ สามารถลดลงความเสี่ยงนี้ได้มากเสการดูแลหลังการรักษาเช่นการใส่ถุงน้ำแข็งที่จุดรักษา นวดจุดฉีดหลายครั้งต่อวัน และหลีกเลี่ยงการถูกแดดอาจช่วยลดผลข้างเคียงได้
ผลลัพธ์หลังการฉีดจะอยู่ได้นานกว่า สารสังเคราะห์ Hyalyronic Acid ซึ่งอยู่ได้นานถึง 2 ปี เพราะตำแหน่งการวางตัวยานั้นสามารถวางในชั้นผิวที่ลึกขึ้น
อาการทั่วไปจะมีเพียงอาการบวม แดง ช้ำและมีอาการปวดเล็กน้อย ซึ่งหายได้เองใน 3 วัน หลังฉีด ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำให้นวดบริเวณที่ฉีด Sculptra ทุกวันหลังฉีดประมาณ 5 วัน
Sculptra ได้รับการอนุมัติจาก FDA ในสหรัฐอเมริกาและถูกใช้ทั่วโลกตั้งแต่ปี 1999 และยังปราศจากส่วนผสมของมนุษย์และสัตว์ มีความเข้ากันได้ทางชีวภาพ
โดยองค์ประกอบได้รับการปรับให้เข้ากับร่างกายมนุษย์มากที่สุด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง จึงไม่จำเป็นต้องมีการทดสอบการแพ้ก่อนการรักษา
- ผู้ที่มีประวัติการเกิดคีลอยด์หรือมีแผลเป็นนูน
- ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือเกิดการอักเสบในตำแหน่งที่ทำ
- ในระหว่างตั้งครรภ์ ให้นมบุตร
- ล้างหน้า แต่งหน้าได้ หลังฉีด 3 ชั่วโมง
- ใน 24 ชั่วโมงแรก ให้ประคบเย็น เพื่อลดอาการปวด บวมช้ำ
- ใน 24 ชั่วโมงแรก งดออกกำลังกายหนักและงดออกแดดจัด
- ใน 5 วันแรก แนะนำให้นวดบริเวณที่ฉีด วันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที เพื่อให้ตัวยาค่อยๆ กระจายอย่างทั่วถึงต่อเนื่อง
- ใน 4 สัปดาห์แรกไม่ควรไปฉีดหรือทำหัตถการอื่นๆบริเวณใบหน้า
สร้างเส้นทางใหม่สู่ความงาม
ผ่านทางคลินิกวลีรัตน์
✨ สำรวจประสบการณ์แห่งการปรับปรุงตนเองที่คลินิกวลีรัตน์ทั้ง 5 สาขา หากคุณมีคำถามหรือต้องการคำปรึกษา
เพียงแค่กดปุ่มด้านล่างนี้ เพื่อเชื่อมต่อกับเราผ่านทาง Line