Radiesse Filler
เสกผิวในฝันให้เป็นความจริง
Radiesse filler นวัตกรรมคืนความอ่อนเยาว์ที่ให้ผลลัพธ์อย่างแท้จริง
Radiesse Filler ตัวช่วยในการทำหน้าที่ซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวชนิดต่างๆ ที่มีสภาพเสื่อมหรือหมดสภาพให้สามารถกลับมาดูดีอีกครั้งด้วยส่วนผสมที่มีความต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไป
Radiesse Filler คือ ตัวช่วยกระตุ้นผิวโดยเฉพาะคอลลาเจนอิลาสติน จึงให้ผลลัพธ์ในการเพิ่มวอลลุ่มให้ผิวแบบเห็นผลทันที ไม่ต้องรอเวลาและช่วยลดเลือนริ้วรอยร่องลึกต่างๆในระยะยาว
ด้วยผลลัพธ์ 3 ประการที่เหนือกว่าให้ผู้ใช้บริการ
1. Healthier ช่วยให้สุขภาพผิวให้ดีกว่าเดิม
2. Younger ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ลง คืนความเด็ก
3. Longer ช่วยยืดอายุของผิวให้ดียาวนานยิ่งขึ้น
จึงเหมาะในการแก้ปัญหาริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้าที่เป็นค่อนข้างมาก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมากรวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาที่หลังมือสามารถใช้ Rediesse Filler แก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Rediesse Filler มาให้อ่านกัน ไม่ว่าจะช่วยแก้อะไร ข้อดี ข้อเสียหรือเหมาะกับใครรวมไปถึงการเปรียบเทียบก่อนทำและหลังทำ
เลือกหัวข้อที่สนใจ
Rediesse filler คืออะไร
ต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปอย่างไร
Radiesse Filler คือ นวัตกรรมล่าสุดที่จัดอยู่ในกลุ่มสารเติมเต็มมีส่วนประกอบหลักที่สำคัญไม่ใช่ HA หรือ Hyalilonic acid แต่มีสารเติมเต็ม (Filling Substance) ชนิดหนึ่ง
ที่มีส่วนประกอบหลักคือสาร CaHA (Calcium Hydroxylapatite – แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ ) ซึ่งอยู่ในกลุ่มของสารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator)
มีจุดเด่นพิเศษคือช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน จึงให้ผลลัพธ์ในการเติมวอลลุ่มผิวแบบเห็นผลทันทีและช่วยในการทำให้ใบหน้ายกกระชับลดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
เนื่องจากแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทด์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเยื่อกระดูกซึ่งมีทั้งที่ร่างกายผลิตได้เองและแบบสังเคราะห์ จึงส่งผลให้เข้ากันกับร่างกายได้ดีทั้งยังทำให้ร่างกายเกิดการซึมซับได้ง่าย
Radiesse Filler เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐานรับรองความน่าเชื่อถือจาก อย. ถึง 3 หน่วยงาน ทั้ง EU US และ THFDA จึงปลอดภัยต่อคนไข้อย่างแน่นอน
สิ่งสำคัญที่สุดของ Radiesse Filler คือสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติไม่มีสารตกค้างอยู่ในร่างกายและไม่เป็นอันตรายใดๆเหมาะกับผู้ที่แพ้ง่าย
Radiesse filller มีกี่รุ่น
Rediesse Filler มีด้วยกัน 2 รุ่นที่เป็นที่รู้จักกันดี โดยทั้ง 2 รุ่นสามารถใช้ควบคู่กันได้เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด มาดูกันว่า 2 รุ่น มีอะไรบ้างและแตกต่างกันอย่างไร
- Radiesse Filler เป็นฟิลเลอร์ที่มีความโดดเด่นด้านการฟื้นฟูริ้วรอยร่องลึก ช่วยเสริมให้ใต้ชั้นผิวสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินได้มาก ทั้งยังช่วยลดปัญหาด้านการสูญเสียไขมันบนใบหน้าสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับไขมัน นิยมฉีดบรเวณ รอยพับ ร่องลึก มือและเนินอก
- Radiesse Filler + เป็นฟิลเลอร์ที่ใช้เก็บรายละเอียดเล็กๆ บนใบหน้าและเป็นฟิลเลอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการบาดเจ็บใต้ชั้นผิวจึงมีการผสม Idocaine หรือยาชาเพื่อบรรเทาความเจ็บระหว่างฉีด
Rediesse filler
ช่วยเรื่องอะไรบ้าง
ฟิลเลอร์นั้นถือได้ว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะเป็นหัตถการที่ทำได้ง่ายใช้เวลานิดเดียวและที่สำคัญไม่มีแผลให้ต้องกังวลแต่อย่างใดแถมช่วยเติมเต็มได้เป็นอย่างดี
- แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ริ้วรอยตื้นๆ บริเวณ ใบหน้าและความเหี่ยวย่นบริเวณ หลังมือ
- แก้ปัญหาเรื่องความเหี่ยวย่นบริเวณ คอ เนินอกสำหรับผู้หญิง
- แก้ปัญหารอยแผลเป็น ร่อง หรือหลุม ที่เกิดจากปัญหาผิว เช่นสิว
- แก้ปัญหาร่องแก้มลึก หรือลดร่องน้ำหมาก
- แก้ปัญหาริ้วรอย ที่อยู่เหนือบริเวณเหนือริมฝีปากบน
จุดเด่นของ Radiesse
Strong Structural Skin เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับผิวลงลึกในระดับโครงสร้าง โดยรอบและ Radiesse fille ยังช่วยในการเติมเต็มอย่างดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตกค้างไม่เป็นก้อน
Profound Rejuvenation ช่วยในการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก คือการฟื้นฟูถึงในระดับคอลลาเจนและอิลาสตินที่อยู่ใต้ผิวหนังในบริเวณเนื้อเยื่อให้มีความกระชับ ยืดหยุ่น ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยให้ดูดีขึ้นได้
Cell Regenerative Stimulation ช่วยในการกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสร้างเซลล์ที่อยู่ใต้ชันผิวขึ้นมาใหม่ ให้ใต้ชั้นผิวได้รับการเติมเต็ม ในส่วนที่ขาดหายและกระชับ อิ่มฟูมากขึ้น
Radiesse เหมาะกับใคร
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้าเริ่มสูญเสียคอลลาเจนและความยืดหยุ่น สุขภาพผิวไม่ดี ขาดการบำรุง ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ สภาพผิวแย่กว่าอายุที่ควรจะเป็น
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด
เหมาะกับผู้ที่มีร่องลึกต่างๆ บนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รอยย่นรอบปาก
- เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังขาดความชุ่มชื้น หมองคล้ำ
- เหมาะกับผู้ที่มีผิวขาดวอลุ่ม จากการสูญเสียไขมันและคอลลาเจนตามร่างกาย เช่น หลังมือ ขมับและเนินอก
- เหมาะกับผู้ที่มีใบหน้าขาดวอลุ่ม เช่น ใต้ตาโหลลึก ขมับตอบ
Radiesse ไม่เหมาะกับใคร
- ไม่เหมาะกับบุคคลที่มีโรคเลือดออกง่าย
- ไม่เหมาะกับบุคคลที่แพ้ส่วนประกอบใดๆ ของผลิตภัณฑ์
- ไม่เหมาะกับบุคคลที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ไม่เหมาะกับบุคคลที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
วิธีตรวจเช็คว่าของแท้หรือไม่
ก่อนจะเลือกใช้บริการ ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนว่าผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาฉีดนั้นเป็นของแท้และผ่านการรับรองจาก อย. หรือไม่ สามารถเข้าไปเช็คได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ตรวจสอบว่ากล่องชำรุดหรือไม่
หากพบว่ากล่องมีลักษณะฉีกขาด ชำรุดหรือไม่สมบูรณ์ให้ปฏิเสธการฉีดทันที
อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญของการจะรู้ว่าเป็นของแท้หรือปลอมคือบาร์โค้ด หากเป็นของแท้จะสามารถตรวจสอบผ่าน เว็บ อย.ได้
ตรวจเช็คอุปกรณ์ในกล่อง
ก่อนฉีด Radiesse ทุกครั้ง แพทย์จะแกะกล่องและผสมตัวยาให้คนไข้ดูทุกครั้ง ซึ่งต้องเช็คว่าเมื่อแกะกล่องมาอุปกรณ์ในกล่องครบถ้วนหรือไม่ โดยในกล่องจะมี Radiesse ไซริงค์สำหรับผสมยาและที่สำคัญอีกอย่างคือ Rasiesse Club Card ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้ อาจจะเป็นของปลอม
Before & After
ผู้ที่เลือกใช้บริการโปรแกรม Radiesse
หลังจากการฉีด 3-4 สัปดาห์ CaHA ใน Radiesse จะเริ่มออกฤทธิ์กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเกิดการเปลี่ยนแปลง คุณภาพผิวบริเวณที่ฉีดดีขึ้น กระชับขึ้น ยืดหยุ่นขึ้นและวอลลุ่มบริเวณนั้นก็จะดีขึ้นใบหน้าจะดูขาวกระจ่างใสมากกว่าตอนแรกอีกด้วย
FAQ
คำถามที่พบได้บ่อย
Radiesse Filler สามารถคงผลลัพธ์ใต้ผิวได้นานถึง 1 ปี หรือนานกว่า ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาและร่างกายของแต่ละบุคคล
ต่างกับฟิลเลอร์อื่นๆตรงที่สามารถแก้ไขในเรื่องของริ้วรอยและความหย่อนคล้อยเพราะมีส่วนผสมของแคลเซียมรวมไปถึงสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้
หลังจากฉีดเห็นผลลัพธ์ในทันทีไม่ต้องรอ
เป็นผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้เนื่องจากได้รับการรับรองความน่าเชื่อถือจาก อย. ถึงกว่า 3 หน่วยงาน ทั้ง EU,US และ THFDA และยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับ US-FDA สำหรับการใช้ฉีดที่มือด้วย
- ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่ฉีดควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด
- หากต้องการฉีด Radiesse Filler บริเวณริมฝีปากและบริเวณรอบดวงตาควรปรึกษาแพทย์ตามความเหมาะสมและควรใช้บริการแพทย์ที่มีฝีมือในการทำการฉีด
- หากมีความจำเป็นต้องทำ X-rays หรือ CT Scans ควรแจ้งแพทย์ที่ทำการดูแลว่าไปฉีด Radiesse Filler มา
- คนไข้ที่มีประวัติของโรคเริมควรแจ้งแพทย์ก่อนฉีด Radiesse Filler
- คนไข้ที่ใช้ยาละลายลิ่มเลือดหรือยาจำพวกก่อให้เกิดการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน วาร์ฟาริน อาจทำให้เกิดอาการเลือดออก หรือรอยช้ำหลังทำการฉีด Radiesse Filler ได้ควรแจ้งแพทย์
- ถ้ามีประวัติเกิดแผลคีลอยด์ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
Radiesse Filler เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติผู้ใช้บริการจึงไม่ต้องกลัวว่า จะเกิดการตกค้างหลงเหลืออยู่บริเวณใต้ชั้นผิวหนัง
Radiesse Filler ใช้ฉีดบริเวณใบหน้าส่วนกลาง( middle face )และใบหน้าส่วนล่าง (lower face) ร่วมทั้งส่วนอื่นๆ เช่น มือ หรือเนินอก โดยทำการรักษาโดยประมาณต่อหนึ่งครั้งประมาณ 30 นาทีถึง 60 นาทีขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำการฉีด