รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้หายไปยังไงดี Waleerat Clinic มีคำตอบ

ต้องยอมรับว่าปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำเป็นหนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่สร้างความหนักใจให้กับหลายๆ คน เพราะกังวลว่าจะดูเหมือนคนสุขภาพผิวไม่ดี และยังลดทอนความมั่นใจอีกด้วย ทำให้หลายคนพยายามปกปิดจุดดำหรือรอยปื้นเหล่านั้น เช่น การลงรองพื้นหนาหรือแต่งหน้าจัดจนอาจดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือพยายามรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำด้วยการทาครีมบำรุงผิวหน้า ที่มีสารสกัดช่วยลดรอยดำ เป็นต้น

สำหรับใครที่มีปัญหาฝ้า กระ และจุดด่างดำกวนใจ และกำลังมองหาวิธีการรักษาที่เห็นผลไว ตรงจุด และมีผลข้างเคียงน้อย ที่ Waleerat Clinic มีบริการการรักษาให้เลือกอย่างหลากหลาย เพื่อให้คนไข้ได้รับการรักษาที่เหมาะสม และได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

ฝ้าคืออะไร เกิดได้อย่างไร? รวมปัจจัยที่ก่อให้เกิดฝ้า ต้นเหตุหน้าหมอง

ฝ้า (Melasma) มีสาเหตุมาจากเซลล์สร้างเม็ดสีที่ผิวถูกกระตุ้นให้ผลิตเม็ดสีหรือเมลานินมากกว่าปกติ จนเกิดเป็นปื้นสีน้ำตาลอ่อนไปถึงเข้ม เทา หรือดำ ทำให้สีผิวดูไม่สม่ำเสมอและหมองคล่ำ สำหรับปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้เกิดฝ้า คือ แสงแดดและรังสียูวี โดยเฉพาะรังสียูวีเอ (Ultraviolet A-rays) ที่สามารถทะลุเข้าสู่ผิวชั้นในได้

ทำให้พบฝ้ามากในบริเวณที่โดนแสงแดดบ่อย อย่างบริเวณหน้าผาก จมูก รอบริมฝีปาก โหนกแก้ม หน้าอก ลำคอ แขน และขา แต่นอกจากแสงแดดแล้ว พันธุกรรม เครื่องสำอาง การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย และการรับประทานยายังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ฝ้าได้เช่นกัน

ฝ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร

ฝ้ามีกี่ประเภท แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร

ถ้ามองจากภายนอกแล้วเห็นแค่รอยดำๆ บนผิวหน้า คนส่วนใหญ่ก็คงคิดว่าตัวเองเป็นฝ้าแดดและค้นหาวิธีรักษาฝ้าแดดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในความจริงแล้ว ถ้าดูจากความเข้มของรอยฝ้า ความลึกของฝ้าที่ชั้นผิวหนัง และการขอบเขตของฝ้า สามารถแบ่งประเภทของฝ้าได้ดังนี้
ประเภทฝ้า

ฝ้าตื้น

ฝ้าตื้นถือเป็นฝ้าที่พบได้ง่ายที่สุด มีลักษณะเป็นปื้นสีน้ำตาล เทา หรือดำที่ผิวหนัง โดยมีสาเหตุจากการที่เซลล์สร้างเม็ดสีแล้วลำเลียงมาที่ผิวชั้นหนังกำพร้า ซึ่งเป็นผิวด้านนอกสุด จึงทำให้ฝ้าชนิดนี้มองเห็นได้อย่างชัดเจนและรักษาได้ง่ายกว่าฝ้าประเภทอื่น สำหรับการรักษา ฝ้าชนิดนี้สามารถรักษาด้วยยารักษาฝ้า แต่ก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก

ฝ้าลึก

ฝ้าลึกมีลักษณะเป็นรอยสีน้ำตาลอ่อน อาจมองเห็นได้ไม่ชัดเจน และไม่ทราบขอบเขตของฝ้าชัดเจน เนื่องจากฝ้า ลึกจะอยู่ลึกลงไปในผิวหนังชั้นใน ทำให้การทายาเพียงอย่างเดียวจึงไม่สามารถรักษาฝ้าชนิดนี้ได้ เพียงแต่ทำให้รอยของฝ้าจางลงเท่านั้น จำเป็นต้องใช้การรักษาฝ้าวิธีอื่นร่วมด้วย

ฝ้าเลือด

ฝ้าเลือดมีลักษณะรอยสีชมพู สีน้ำตาลแดง หรือสีน้ำตาลเข้มของรอยแตกแขนงของเส้นเลือดฝอย เกิดจากเส้นเลือดฝอยใต้ชั้นหนังแท้มีจำนวนมากขึ้นหรือเสื่อมสภาพ โดยมีปัจจัยมาจากผิวรับแสงเป็นเวลานาน เกิดจากการคล้ำขึ้นของฝ้าชนิดอื่น หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารอันตราย สำหรับการรักษาฝ้าเลือดควรเลือกใช้วิธีเลเซอร์ผิวจะเห็นผลเร็วที่สุด

การมีฝ้าเป็นอันตรายต่อผิวหนังไหม

หากถามว่าฝ้าทุกประเภทนั้นมีอันตรายหรือฝ้ารักษาหายไหม แน่นอนว่าคำตอบของทั้งสองคำถามคือ “ไม่” ฝ้า กระ และจุดด่างดำทุกชนิดไม่ได้เป็นอันตรายต่อผิวหรือสุขภาพร่างกาย และไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ แต่เหตุผลที่ทำให้คนส่วนใหญ่พยายามรักษาฝ้าให้จางลง เนื่องจากฝ้า กระ และจุดด่างดำ ทำให้หลายคนขาดความมั่นใจและต้องเสียเวลาในการแต่งหน้ามากขึ้น เพื่อกลบร่องรอยบนใบหน้า

แต่การรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำด้วยการซื้อยามาใช้เอง อาจจะไม่ใช่วิธีการรักษาที่ถูกต้อง เนื่องจากยาบางชนิดอาจทำให้ผิวบางและเกิดฝ้าได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมได้ ด้วยเหตุนี้การรักษา ฝ้า กระ และจุดด่างดำจึงควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง เพราะแม้ว่าฝ้าจะเป็นภาวะที่ไม่สามารถให้หายขาดได้ แต่วิธีการรักษาที่แพทย์ใช้ เช่น การทำหัตถการ หรือการใช้สารบางชนิด ก็เป็นวิธีที่ปลอดภัยต่อผิว และสามารถทำให้ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำจางดูลงจนแทบไม่มองเห็นอีกด้วย

เสกหน้าด่าง จุดด่างดำ ให้กลับมาเนียนใส

วิธีรักษาฝ้ามีด้วยกันกี่แบบ? เปิดเทคนิครักษาฝ้าที่ Waleerat Clinic มั่นใจ

ปัจจุบันการรักษาฝ้ามีให้เลือกหลากหลายวิธี โดยแต่ละวิธีมีจุดเด่น วิธีการ และระยะเวลาที่แตกต่างกัน ซึ่งจะมีวิธีไหนและน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันเลย
Alpha Arbutin

รักษาด้วย Alpha Arbutin

การรักษาด้วย Alpha Arbutin เป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาฝ้า รอยกระ และจุดด่างดำ ที่กำลังได้รับความนิยมจากคน ด้วยเป็นวิธีที่สามารถใช้ร่วมกับการรักษาด้วยวิธีอื่นได้ ซึ่งการรักษาด้วย Alpha Arbutin มีเรื่องที่น่าสนใจ ดังนี้

Alpha Arbutin คืออะไร

Alpha Arbutin เป็นอาร์บูติน (Arbutin) ชนิดหนึ่งที่สกัดได้จากผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% โดยส่วนใหญ่พบในพืชเมืองหนาวหลายชนิด เช่น ลูกแพร สาลี่ และผลไม้ตระกูลเบอร์รี ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำให้จางลง พร้อมทั้งช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น

Alpha Arbutin ช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ อย่างไร

คุณสมบัติหลักๆ ของอาร์บูติน (Arbutin) ทั้ง Alpha Arbutin และ Beta Arbutin คือ เข้าไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างเม็ดสีหรือเมลานิน จึงทำให้อาร์บูตินช่วยลดการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ แต่เหตุผลที่ทำให้ Alpha Arbutin ได้รับความสนใจในการรักษาฝ้ามากกว่า เพราะจากศึกษาจากประเทศญี่ปุ่นพบว่า สามารถยับยั้งการสร้างเม็ดสีได้มากกว่า Beta Arbutin 10 เท่า

สำหรับขั้นตอนรักษาฝ้าด้วย Alpha Arbutin จะเริ่มจากการทำความสะอาดใบหน้า ทายาชาในกรณีที่ผู้ทำกลัวเจ็บ จากนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะฉีด Alpha Arbutin บริเวณที่เป็นฝ้า ส่วนจำนวนครั้งที่ทำจะขึ้นอยู่กับความหนาของฝ้าและสภาพของผิวหน้า

Alpha Arbutin อันตรายไหม มีผลข้างเคียงหรือเปล่า

เนื่องจาก Alpha Arbutin เป็นสารสกัดที่ได้รับอนุญาตให้นำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหรือครีมรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดําอยู่แล้ว อีกทั้งร่างกายยังดูดซึมน้อย จึงมีความปลอดภัยสูง

แต่ข้อเสีย คือ ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายเนื่องจากอาจเกิดอาการแพ้ได้ และในบ้างรายอาจมีปัญหาเรื่องผิวไหม้จากการที่อาร์บูติน (Arbutin) บางส่วนเปลี่ยนเป็นไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ทำให้ต้องใช้ครีมกันแดดร่วมด้วย

ใครเหมาะกับการรักษาฝ้าด้วย Alpha Arbutin

การรักษาฝ้าด้วย Alpha Arbutin เหมาะสำหรับผู้ที่มีฝ้าลึก กระ จุดด่างดำ รอยสิว และผิวหมองคล้ำ รวมถึง ผู้ที่ทาครีมบำรุง หรือยาไม่สามารถแก้ปัญาฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ แต่ไม่อยากทำเลเซอร์

serum collagen

Alpha Arbutin เป็นอาร์บูติน (Arbutin) ชนิดหนึ่งที่สกัดได้จากผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% โดยส่วนใหญ่พบในพืชเมืองหนาวหลายชนิด เช่น ลูกแพร สาลี่ และผลไม้ตระกูลเบอร์รี ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำให้จางลง พร้อมทั้งช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น

คุณสมบัติหลักๆ ของอาร์บูติน (Arbutin) ทั้ง Alpha Arbutin และ Beta Arbutin คือ เข้าไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างเม็ดสีหรือเมลานิน จึงทำให้อาร์บูตินช่วยลดการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ แต่เหตุผลที่ทำให้ Alpha Arbutin ได้รับความสนใจในการรักษาฝ้ามากกว่า เพราะจากศึกษาจากประเทศญี่ปุ่นพบว่า สามารถยับยั้งการสร้างเม็ดสีได้มากกว่า Beta Arbutin 10 เท่า

สำหรับขั้นตอนรักษาฝ้าด้วย Alpha Arbutin จะเริ่มจากการทำความสะอาดใบหน้า ทายาชาในกรณีที่ผู้ทำกลัวเจ็บ จากนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะฉีด Alpha Arbutin บริเวณที่เป็นฝ้า ส่วนจำนวนครั้งที่ทำจะขึ้นอยู่กับความหนาของฝ้าและสภาพของผิวหน้า

เนื่องจาก Alpha Arbutin เป็นสารสกัดที่ได้รับอนุญาตให้นำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหรือครีมรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดําอยู่แล้ว อีกทั้งร่างกายยังดูดซึมน้อย จึงมีความปลอดภัยสูง

แต่ข้อเสีย คือ ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายเนื่องจากอาจเกิดอาการแพ้ได้ และในบ้างรายอาจมีปัญหาเรื่องผิวไหม้จากการที่อาร์บูติน (Arbutin) บางส่วนเปลี่ยนเป็นไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) ทำให้ต้องใช้ครีมกันแดดร่วมด้วย

การรักษาฝ้าด้วย Alpha Arbutin เหมาะสำหรับผู้ที่มีฝ้าลึก กระ จุดด่างดำ รอยสิว และผิวหมองคล้ำ รวมถึง ผู้ที่ทาครีมบำรุง หรือยาไม่สามารถแก้ปัญาฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ แต่ไม่อยากทำเลเซอร์

รักษาด้วยเลเซอร์

รักษาด้วยเลเซอร์

เหตุผลที่คนส่วนใหญ่เลือกการรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ เนื่องจากสามารถแก้ปัญหาได้หลายจุด ไม่ว่าจะเป็น รอยฝ้า รอยกะ หรือจุดด่างดำก็สามารถจัดการได้หมด ซึ่งหนึ่งในวิธีการรักษาด้วยเลเซอร์ที่น่าสนใจขณะนี้ คือ Pico Laser นวัตกรรมการเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพ ไม่เจ็บ ไม่เกิดรอยแผล และที่สำคัญเป็นวิธีที่ปลอดภัย

Devices PicoLazer

Pico Laser คืออะไร

Pico Laser หรือ Picosecond คือ นวัตกรรมการรักษาฝ้า รอยสิว กระ และจุดด่างดำ ด้วยการยิงพลังงานเลเซอร์เข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนังด้วยความเร็ว 1 ต่อล้านล้านวินาทีต่อครั้ง (พิโควินาที) ซึ่งพลังงานความร้อนจากเลเซอร์จะเข้าไปทำให้เม็ดสีที่ชั้นผิวหลังแตกตัวและจางลง

Pico Laser ช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำ อย่างไร

ด้วยนวัตกรรม Pico Laser จะทำให้พลังงานที่ใช้จะมีความเร็วและแรงมากกว่าการทำเลเซอร์แบบอื่นจึงเข้าไปทำให้เม็ดสีที่ชั้นผิวหนังแตกตัว ฝ้าที่ผิวหนังจึงจางลงโดยไม่กระทบกระเทือนกับเนื้อเยื่อปกติ รวมถึง ไม่ทำให้เกิดแผลนูนหรือสะเก็ดแผลบนผิวอีกด้วย

ใช้ Pico Laser รักษาฝ้าอันตรายไหม มีผลข้างเคียงหรือเปล่า

ข้อดีของการรักษาฝ้าด้วยวิธี Pico laser คือ ใช้เวลาทำน้อย คนที่ทำไม่รู้สึกเจ็บ ไม่มีแผลเป็นหรือสะเก็ดแผล จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงได้ รวมถึง ใช้จำนวนครั้งที่น้อยกว่าการทำเลเซอร์แบบอื่น แต่ข้อเสียของวิธีนี้ คือ ถ้าทำในจุดเดิมซ้ำๆ เป็นเวลานาน จะทำให้ความร้อนกระจุกอยู่ที่เดิม และอาจทำให้เกิดปัญหาผิวด่างขาวตามมาได้

ใครเหมาะกับการรักษาฝ้าด้วย Pico Laser

ผู้ที่เหมาะสำหรับการรักษาฝ้าด้วยวิธี Pico laser คือ ผู้ที่มีปัญหาสีผิวหมองคล้ำ ริ้วรอย ผิวหนังไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง มีลายแตกในร่างกาย และผู้ที่มีฝ้า กระ และจุดด่างดำ โดยเฉพาะผู้ที่มีฝ้าลึกในชั้นผิวหนัง การเลือกรักษาฝ้าด้วยวิธี Pico จะเป็นการไปจัดการกับเซลล์ผิวได้อย่างตรงจุด รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากกว่า

Pico Laser หรือ Picosecond คือ นวัตกรรมการรักษาฝ้า รอยสิว กระ และจุดด่างดำ ด้วยการยิงพลังงานเลเซอร์เข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนังด้วยความเร็ว 1 ต่อล้านล้านวินาทีต่อครั้ง (พิโควินาที) ซึ่งพลังงานความร้อนจากเลเซอร์จะเข้าไปทำให้เม็ดสีที่ชั้นผิวหลังแตกตัวและจางลง

ด้วยนวัตกรรม Pico Laser จะทำให้พลังงานที่ใช้จะมีความเร็วและแรงมากกว่าการทำเลเซอร์แบบอื่นจึงเข้าไปทำให้เม็ดสีที่ชั้นผิวหนังแตกตัว ฝ้าที่ผิวหนังจึงจางลงโดยไม่กระทบกระเทือนกับเนื้อเยื่อปกติ รวมถึง ไม่ทำให้เกิดแผลนูนหรือสะเก็ดแผลบนผิวอีกด้วย

ข้อดีของการรักษาฝ้าด้วยวิธี Pico laser คือ ใช้เวลาทำน้อย คนที่ทำไม่รู้สึกเจ็บ ไม่มีแผลเป็นหรือสะเก็ดแผล จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงได้ รวมถึง ใช้จำนวนครั้งที่น้อยกว่าการทำเลเซอร์แบบอื่น แต่ข้อเสียของวิธีนี้ คือ ถ้าทำในจุดเดิมซ้ำๆ เป็นเวลานาน จะทำให้ความร้อนกระจุกอยู่ที่เดิม และอาจทำให้เกิดปัญหาผิวด่างขาวตามมาได้

ผู้ที่เหมาะสำหรับการรักษาฝ้าด้วยวิธี Pico laser คือ ผู้ที่มีปัญหาสีผิวหมองคล้ำ ริ้วรอย ผิวหนังไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง มีลายแตกในร่างกาย และผู้ที่มีฝ้า กระ และจุดด่างดำ โดยเฉพาะผู้ที่มีฝ้าลึกในชั้นผิวหนัง การเลือกรักษาฝ้าด้วยวิธี Pico จะเป็นการไปจัดการกับเซลล์ผิวได้อย่างตรงจุด รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากกว่า

เทคนิครักษาฝ้า

การทาครีมถือว่าเป็นการรักษาฝ้า ที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้เป็นวิธีแรก เพราะนอกจากจะมีราคาถูกกว่าการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ แล้ว ปัจจุบันยังมีครีมบำรุงผิวหรือเซรัมที่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้ฝ้าให้จางลงให้เลือกซื้อมากมาย โดยเฉพาะครีมที่ส่วนผสมของกรด AHA (Alpha Hydroxy Acid) อาร์บูติน (Arbutin) และกรดโคจิก (Kojic) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการลอกของเซลล์ผิวเก่า และสร้างเซลล์ผิวใหม่

สำหรับข้อดีของทาครีมรักษาฝ้า คือ มีอัตราการเกิดการระคายเคืองน้อย แต่ถึงอย่างนั้นมีข้อเสียตรงใช้เวลา และต้องมีวินัยในการทาครีมสม่ำเสมอรอยฝ้าถึงดูจางลงได้

การรักษาฝ้า ด้วยวิธี IPL หรือ Intense Pulsed Light เป็นการยิงพลังงานแสง 500 – 1200 nm เข้าไปทำลายโครงสร้างโปรตีนของเม็ดสีที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวบริเวณที่ทำ IPL แลดูกระจ่างใส สม่ำเสมอขึ้น และช่วยกระชับรูขุมขนอีกด้วย

สำหรับข้อดีของการรักษาฝ้าด้วยวิธีนี้ คือ ผู้ทำไม่รู้สึกเจ็บมากจึงไม่ต้องฉีดยาชา แต่ข้อเสีย คือ ต้องทำหลายครั้งจึงจะเห็นผล และเมื่อรักษาแล้ว ยังมีโอกาสที่ฝ้าจะกลับมามีสีเข้มเหมือนเดิมได้เช่นกัน ทั้งนี้ เป็นวิธีที่ไม่ควรทำติดต่อกัน เพราะจะทำให้ผิวบางและอ่อนแอลง อีกทั้งวิธีนี้ยังไม่เหมาะกับคนผิวคล้ำ เนื่องด้วยความร้อนอาจทำให้ผิวไหม้ได้

การรักษาฝ้าด้วยเมโส คือ การฉีดวิตามินสกัดเข้าไปซ่อมแซมและเร่งกระบวนผลัดเซลล์ผิวชั้นกลาง อย่างการทำ Crystal White ของ Waleerat Clinic ที่เป็นฉีด Vitamin C 2 ml และ Transamin 5 ml ด้วยการสะกิดผิว เพื่อช่วยให้รอยฝ้า กระ และจุดด่างดำจางลง ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผิวหน้าแลดูกระจางใสขึ้น

สำหรับข้อดีของการรักษาฝ้าด้วยวิธีนี้ คือ ฝ้าและรอยต่างๆ จากลงอย่างรวดเร็ว เห็นผลตั้งแต่ช่วง 3 วันแรกที่ฉีด แต่ข้อเสีย คือ ต้องฉีดหลายครั้งจึงจะได้ผลดี โดยเดือนแรกต้องฉีดทุกสัปดาห์ หลังจากนั้นจะฉีดห่างกันครั้งละ 2 สัปดาห์

เทคนิครักษาฝ้า

ทาครีมรักษาฝ้า

การทาครีมถือว่าเป็นการรักษาฝ้า ที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้เป็นวิธีแรก เพราะนอกจากจะมีราคาถูกกว่าการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ แล้ว ปัจจุบันยังมีครีมบำรุงผิวหรือเซรัมที่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้ฝ้าให้จางลงให้เลือกซื้อมากมาย โดยเฉพาะครีมที่ส่วนผสมของกรด AHA (Alpha Hydroxy Acid) อาร์บูติน (Arbutin) และกรดโคจิก (Kojic) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการลอกของเซลล์ผิวเก่า และสร้างเซลล์ผิวใหม่

สำหรับข้อดีของทาครีมรักษาฝ้า คือ มีอัตราการเกิดการระคายเคืองน้อย แต่ถึงอย่างนั้นมีข้อเสียตรงใช้เวลา และต้องมีวินัยในการทาครีมสม่ำเสมอรอยฝ้าถึงดูจางลงได้

รักษาฝ้าด้วย IPL

การรักษาฝ้า ด้วยวิธี IPL หรือ Intense Pulsed Light เป็นการยิงพลังงานแสง 500 – 1200 nm เข้าไปทำลายโครงสร้างโปรตีนของเม็ดสีที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวบริเวณที่ทำ IPL แลดูกระจ่างใส สม่ำเสมอขึ้น และช่วยกระชับรูขุมขนอีกด้วย

สำหรับข้อดีของการรักษาฝ้าด้วยวิธีนี้ คือ ผู้ทำไม่รู้สึกเจ็บมากจึงไม่ต้องฉีดยาชา แต่ข้อเสีย คือ ต้องทำหลายครั้งจึงจะเห็นผล และเมื่อรักษาแล้ว ยังมีโอกาสที่ฝ้าจะกลับมามีสีเข้มเหมือนเดิมได้เช่นกัน ทั้งนี้ เป็นวิธีที่ไม่ควรทำติดต่อกัน เพราะจะทำให้ผิวบางและอ่อนแอลง อีกทั้งวิธีนี้ยังไม่เหมาะกับคนผิวคล้ำ เนื่องด้วยความร้อนอาจทำให้ผิวไหม้ได้

รักษาด้วยเมโส

การรักษาฝ้าด้วยเมโส คือ การฉีดวิตามินสกัดเข้าไปซ่อมแซมและเร่งกระบวนผลัดเซลล์ผิวชั้นกลาง อย่างการทำ Crystal White ของ Waleerat Clinic ที่เป็นฉีด Vitamin C 2 ml และ Transamin 5 ml ด้วยการสะกิดผิว เพื่อช่วยให้รอยฝ้า กระ และจุดด่างดำจางลง ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผิวหน้าแลดูกระจางใสขึ้น

สำหรับข้อดีของการรักษาฝ้าด้วยวิธีนี้ คือ ฝ้าและรอยต่างๆ จากลงอย่างรวดเร็ว เห็นผลตั้งแต่ช่วง 3 วันแรกที่ฉีด แต่ข้อเสีย คือ ต้องฉีดหลายครั้งจึงจะได้ผลดี โดยเดือนแรกต้องฉีดทุกสัปดาห์ หลังจากนั้นจะฉีดห่างกันครั้งละ 2 สัปดาห์

รักษาฝ้าที่ Waleerat Clinic ดีอย่างไร

Waleerat Clinic คือ คลินิกที่มากประสบการณ์ในด้านการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องศัลยกรรม โดยมีบริการทั้งการร้อยไหม การดูแลผิวพรรณ และการชะลอวัย เปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 10 ปี สร้างความมั่นใจผู้ใช้บริการด้วยรางวัล NO.1 ASIA FACE LIFTING ทุกการรักษาดำเนินการโดยแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง ศัลยกรรมความงาม และเวชศาสตร​ชะลอวัย

รวมถึง ยังมีวิธีการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำที่หลากหลาย สามารถเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิว ลักษณะฝ้า หรือตามข้อจำกัดของคนไข้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอีกด้วย

รักษาฝ้าที่ Waleerat Clinic ราคาเท่าไร แพงหรือเปล่า

สำหรับ Waleerat Clinic เป็นคลินิกที่มากประสบการณ์ในด้านการดูแลผิวพรรณและเวชศาสตร์ชะลอวัย จึงให้บริการที่หลากหลาย เช่น การร้อยไหม การฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกซ์ ศัลยกรรมตาสองชั้น ผ่าตัดถุงใต้ตา เมโสเฟต การเติมวิตามิน และการฟื้นฟูผิวด้วยเกล็ดเลือด เรียกว่าดูแลครบทุกส่วนให้สวยดั่งใจตั้งแต่หัวจรดเท้า โดยค่าบริการการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำที่ Waleerat Clinic มีดังนี้
รักษาด้วย Alpha Arbutin
รักษาด้วย Alpha Arbutin

ราคาปกติ

ราคาปกติ 7,900 บาท

ราคารักษาฝ้า pico

ราคาปกติ

ราคาปกติ 8,900 บาท

ก่อน - หลังทำหัตถการรักษาฝ้า ดูแลตนเองอย่างไรดี

ถ้าหากเลือกการทำหัตถการรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ อย่างการรักษาด้วย Alpha Arbutin หรือการทำ Pico Laser ต้องมีการดูแลตัวเองทั้งก่อนและหลังทำหัตถการที่เหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพในการรักษา โดยมีขั้นตอนที่คล้ายคลึงกัน ดังต่อไปนี้

ก่อนทำ

  • ก่อนตัดสินใจทำหัตถการรักษาฝ้าควรปรึกษาแพทย์ เพื่อทำความเข้าใจการดำเนินการทุกขั้นตอนและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้
  • หากมีโรคประจำตัวหรือมีประวัติแพ้ยาควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เพื่อประเมินความเสี่ยง
  • พยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง แต่ถ้าหลีกเลี่ยงได้ยากควรสวมหมวกหรือกางร่ม เพื่อป้องกันการสัมผัสกับแดดโดยตรง
  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม
  • ในวันที่เข้ารับการทำหัตถกรรมควรงดแต่งหน้าหรือทาครีม
  • ในกรณีของการรักษาด้วย Alpha Arbutin ควรงดการรับประทานยา หรือวิตามินอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนทำหัตถการ
  • ในกรณีของการรักษาด้วย Pico Laser จำเป็นต้องสวมแว่นตาที่ทางคลินิกเตรียมไว้ให้ในขณะที่ทำ เพื่อเป็นการป้องกันดวงตาจากอันตรายของเลเซอร์
หลังรักษาฝ้า

หลังทำ

  • ควรปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอาหารที่ห้ามรับประทานและสิ่งที่ห้ามทำ เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้
  • ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น แสงแดด แอลกอฮอล์ และเครื่องสำอาง ตามระยะเวลาที่แพทย์แนะนำ
  • หากมีอาการแพ้ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อประเมินอาการและรักษาได้ทันท่วงที

FAQ

เซลล์สร้างเม็ดสีมีการผลิตเม็ดสีมากกว่าปกติ ปัจจัยหลักๆ คือ แสงแดด รังสี UV พันธุกรรม เครื่องสำอาง การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย และการรับประทานยาบางชนิด

ไม่มีทางรักษาฝ้าให้หายขาดได้ เพียงแต่บรรเทาให้จางลงได้
ฝ้าทุกชนิดสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก เนื่องจากฝ้าเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย