ดึงหน้า

บอกลาหน้าเหี่ยวด้วยศัลยกรรมดึงหน้า ตัวช่วยผิวหน้ากระชับ อ่อนเยาว์

ด้วยอายุที่มากขึ้น ร่างกายจึงเสื่อมสภาพไปตามอายุที่มากขึ้นด้วย ทำให้ปัญหาบนใบหน้าเริ่มเห็นได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ทั้งความหย่อนคล้อยจากการที่กล้ามเนื้อส่วนบนของใบหน้าไม่แข็งแรง มวลกระดูกบนใบหน้าน้อยลง ทำให้มีผิวหนังส่วนเกิน กลายเป็นความหย่อนยานบนใบหน้า อีกทั้งอารมณ์บนใบหน้ายังดูไม่สดใสเนื่องจากหางตาและมุมปากตกที่สืบเนื่องมาจากความหย่อนคล้อย นอกจากนั้นเหนียงและลำคอที่ย้อยลงมาก็ยิ่งทำให้ดูแก่เกินวัย 

แต่ด้วยนวัตกรรมการแพทย์ในยุคนี้สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการฉีดฟิลเลอร์ ฉีดไขมัน ร้อยไหม ก็สามารถตอบโจทย์ปัญหาใบหน้าได้ทั้งนั้น บทความนี้จะพาไปรู้จักกับหัตถการยอดนิยมอีกอย่างหนึ่ง คือ ศัลยกรรมดึงหน้า ที่ช่วยลดความหย่อนคล้อย ลดริ้วรอย ยกกระชับ คืนความอ่อนเยาว์และเพิ่มความสดใสให้กับใบหน้าขึ้นมาอีกครั้งได้

Table of Contents
การศัลยกรรมดึงหน้าคืออะไร

การศัลยกรรมดึงหน้าคืออะไร

การศัลยกรรมดึงหน้า คือ การผ่าตัดเสริมความงามด้วยการดึงเก็บชั้นผิวหนังให้ตึงเพื่อยกกระชับใบหน้า พร้อมกำจัดผิวหนังส่วนเกินที่หย่อนคล้อย สร้างใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าวัย ลดผิวหย่อนคล้อย พร้อมช่วยให้ผิวหน้าบริเวณแก้มและกรามเรียบเนียนขึ้น แต่การดึงหน้าจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยหรือร่องลึกที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดได้

ดึงหน้าให้เป๊ะปัง ด้วยเทคนิคเหล่านี้

ดึงหน้าให้เป๊ะปัง ด้วยเทคนิคเหล่านี้

ใบหน้าของเราจะมีโครงสร้างผิวหนังอยู่ 4 ชั้น คือ ชั้นผิวหนัง ชั้นไขมัน ชั้นเนื้อเยื่อ SMAS และชั้นกล้ามเนื้อ ด้วยความที่ใบหน้ามีหลายชั้นทำให้การดึงหน้านั้นมีเทคนิคการดึงอยู่หลายแบบ แต่เทคนิคที่สำคัญที่ควรรู้ก่อนทำ มีด้วยกัน 2 แบบ คือ

การดึงผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังชั้นตื้น (Subcutaneous Face Lifting)

เป็นการผ่าตัดดึงหน้าลงลึกแค่ชั้นผิวหนังและชั้นไขมัน ข้อดีของการดึงหน้าชั้นตื้นคือง่ายต่อการผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนานเพราะแผลหายเร็ว ทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ดีในการดึงบริเวณหางตา แก้ม และลำคอ เหมาะกับการผ่าตัดซ้ำ หรือเพื่อแก้ไขงาน นอกจากนั้นยังมีราคาที่ไม่สูง ประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย แต่การดึงหน้าชั้นตื้นก็มีข้อเสียตรงที่ผลลัพธ์การผ่าตัดอาจเห็นผลไม่ชัดเจน ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้ไม่นาน เพราะไม่ได้ผ่าตัดลงลึกไปถึงชั้นเนื้อเยื่อที่มีเอ็นตะปูยึดใบหน้าไว้ จึงไม่เหมาะกับคนที่มีความหย่อนคล้อยมากหรือคนที่มีน้ำหนักมาก นอกจากนั้นยังทำให้เกิดแรงตึงตามแผลผ่าตัดอย่างมาก มีโอกาสที่จะเกิดแผลคีลอยด์หรือแผลเป็นนูนได้

การผ่าตัดดึงผิวหน้าในแนวลึก (Deep Plane Facelift)

คือการผ่าตัดดึงหน้าที่ลงลึกถึงชั้นเนื้อเยื่อ SMAS ซึ่งเป็นเทคนิคที่นิยมใช้ในการผ่าตัดมากกว่าแบบชั้นตื้น เพราะข้อดีของเทคนิคนี้คือให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้ยาวนานมากกว่า เนื่องจากเป็นการดึงหน้าในชั้นเนื้อเยื่อที่มีเอ็นตะปูยึดใบหน้า ทำให้แก้ไขปัญหาใบหน้ายากๆ ได้ เช่น ร่องมุมปาก แก้มที่หย่อนคล้อยมาก เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นการผ่าตัดชั้นลึกจะทำให้มีแรงตึงตามแผลผ่าตัดน้อยกว่า โอกาสที่จะเกิดแผลนูนหรือแผลคีลอยด์จึงน้อยกว่าด้วย อย่างไรก็ตามเทคนิคการผ่าตัดนี้ก็มีค่าใช้จ่ายสูง อีกทั้งเป็นการผ่าตัดที่ยากและใช้เวลานานเพราะใกล้กับชั้นกล้ามเนื้อและเส้นประสาท แพทย์จึงต้องมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก

ผ่าตัดดึงหน้า สามารถทำส่วนใดได้บ้าง

ผ่าตัดดึงหน้า สามารถทำส่วนใดได้บ้าง

เพราะใบหน้าในแต่ละจุดจะมีปัญหาที่แตกต่างกันไป จึงสามารถผ่าตัดบริเวณอื่นหรือทำเฉพาะจุดได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องผ่าตัดทั้งใบหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาเพียงจุดเดียว ส่วนที่สามารถเลือกทำเฉพาะจุดได้จะมีดังต่อไปนี้

  • ดึงหน้าผาก (Forehead Lift) ช่วยลดรอยย่นที่พับเป็นจีบบนหน้าผาก ยกคิ้วให้สูงขึ้น และสามารถลดระยะห่างระหว่างไรผมกับคิ้วได้
  • ดึงใบหน้าส่วนบน (Upper Facelift/Temporal Lift) ช่วยแก้ไขปัญหาตีนกา หางตาตก และหนังตาหย่อน ที่เป็นสาเหตุทำให้อารมณ์บนใบหน้าดูเศร้าหมอง พร้อมทั้งยังช่วยยกโหนกแก้มให้สูงขึ้นด้วย
  • ดึงใบหน้าส่วนกลางและส่วนล่าง (Lower Facelift) ช่วยทำให้ร่องแก้ม ร่องน้ำหมากดูตื้นขึ้น แก้ไขปัญหามุมปากตกหรือคว่ำลง พร้อมช่วยลดระยะห่างระหว่างจมูกกับริมฝีปากได้ และยังทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้นได้อีกด้วย
  • ดึงคอ (Neck Lift) แก้ปัญหาเหนียงและคางสองชั้น ทั้งยังช่วยลดรอยพับที่คอ และสามารถเพิ่มความเต่งตึงระหว่างลำคอกับกระดูกไหปลาร้าได้
ขั้นตอนการดึงหน้า

ขั้นตอนการดึงหน้า

  • เริ่มต้นการผ่าตัดด้วยการฉีดยาชาเฉพาะที่หรือดมยาสลบ โดยการเลือกฉีดยาหรือดมยาสลบนั้นจะเป็นไปตามความต้องการของแต่ละบุคคลหรือตามการวินิจฉัยของแพทย์ 
  • เปิดแผลเพื่อทำการผ่าตัด โดยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณรอยต่อระหว่างใบหน้ากับใบหูและขมับ ซึ่งเป็นบริเวณเดียวกับแนวเส้นผม ทำให้มองไม่เห็นรอยแผล และเมื่อเวลาผ่านไปจนแผลหายสนิทแล้วก็จะแทบไม่เหลือรอยแผลผ่าตัดเลย
  • หลังจากเปิดแผลแล้วจะทำการเลาะผิวหนังลงไปถึงชั้นเนื้อเยื่อ SMAS แล้วดึงมาเย็บติดใหม่ในตำแหน่งที่แข็งแรงและเหมาะสม เมื่อผ่าตัดชั้น SMAS เรียบร้อยแล้วจึงดึงชั้นผิวหนังบนสุดให้ตึงแล้วตัดผิวหนังส่วนเกินนั้นออก 
  • เย็บแผลด้วยไหมเส้นเล็ก และใช้เทคนิคการเย็บแบบพิเศษที่ปิดแผลได้สวยงาม รวมใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 2-4 ชั่วโมง ต่อจากนั้นให้พักฟื้นที่สถานพยาบาลประมาณ 1 วัน และอีกประมาณ 7-10 วัน จะสามารถตัดไหมเย็บแผลออกได้
การเตรียมตัว และการดูแลหลังดึงหน้า

การเตรียมตัว และการดูแลหลังดึงหน้า

ความใส่ใจในการเตรียมตัวและการดูแลหลังทำการผ่าตัดดึงหน้าเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีมีประสิทธิภาพตามที่คาดหวัง ข้อแนะนำก่อนและหลังดึงหน้านั้นมีรายละเอียดดังนี้

การเตรียมตัวก่อนดึงหน้า

  • 6 เดือนก่อนผ่าตัดงดยารักษาสิวชนิดที่มีส่วนผสมของวิตามิน A และงดการทำ โบท็อก ฟิลเลอร์ บริเวณใบหน้า
  • 3 เดือนก่อนผ่าตัดงดทำหัตถการเช่น ร้อยไหม เลเซอร์
  • 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัดให้งดรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน รวมไปถึงอาหารเสริมที่มีผลต่อการบวมช้ำของแผล เช่น วิตามินเอ น้ำมันตับปลา
  • 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัดให้งดสูบบุหรี่และงดดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทำให้แผลหายช้า และอาจไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของแผลได้
  • งดรับประทานอาหารและน้ำก่อนการผ่าตัด 6-8 ชั่วโมง
  • ทำความสะอาดร่างกาย อาบน้ำสระผมให้เรียบร้อยก่อนทำการผ่าตัด รวมถึงสวมใส่ชุดที่สะดวกสบายในวันที่มาผ่าตัดเพื่อความสะดวกในการเปลี่ยนชุด

การดูแลตัวเองหลังดึงหน้า

  • หลังผ่าตัดให้สวมใส่ผ้ารัดหน้า และประคบเย็นรอบๆ แผลเป็นเวลา 3 วัน เพื่อช่วยลดอาการบวมช้ำ ควรระมัดระวังไม่ให้โดนแผลโดยตรง
  • นอนศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวม พร้อมกับหลีกเลี่ยงการโดนน้ำและการกระแทกที่ใบหน้าและลำคอเป็นเวลา 7 วัน
  • ใช้ไม้พันสำลีชุบน้ำเกลือซับที่แผลอย่างเบามือเพื่อทำความสะอาดแผล
  • งดสูบบุหรี่ งดรับประทานอาหารรสจัด ของหมักดอง อาหารทะเล อาหารเสริม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และงดกิจกรรมออกกำลังกายทุกชนิดที่ทำให้เกิดการกระทบกระเทือน เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
ใครบ้างที่เหมาะกับการดึงหน้า

ใครบ้างที่เหมาะกับการดึงหน้า

การดึงหน้าเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยต่างๆ มีรอยย่นบนหน้าผาก ผู้ที่มีปัญหาตา แก้ม และลำคอหย่อนคล้อยไม่กระชับ มีเหนียงหรือคางสองชั้น นอกจากนั้นการดึงหน้ายังช่วยแก้ปัญหาตีนกา ร่องลึกที่ใต้ตา ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก เหมาะกับผู้ที่มีอายุแล้วแต่ต้องการให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์มากขึ้น รวมไปถึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าที่ให้ความรู้สึกเหมือนเศร้าหมองตลอดเวลาจากการที่มีคิ้ว หางตา หรือมุมปากตกลง การดึงหน้าก็สามารถช่วยตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ได้เช่นกัน

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการผ่าตัดดึงหน้า

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการผ่าตัดดึงหน้า

อย่างที่กล่าวไปว่าการศัลยกรรมดึงหน้านั้นทำในบริเวณที่ใกล้กับกล้ามเนื้อใบหน้าและเส้นประสาท และทุกการผ่าตัดนั้นย่อมมีความเสี่ยงอยู่เสมอไม่มากก็น้อย ซึ่งการดึงหน้ามีโอกาสที่จะเกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนได้ดังต่อไปนี้ 

  • ภาวะเลือดออกหรือห้อเลือด มักพบในผู้ที่สูบบุหรี่จัดหรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลือด เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เป็นต้น อาการที่แสดงคือ คลื่นไส้อาเจียน ไอ มีก้อนห้อเลือด หรือเจ็บแผลมากผิดปกติหลังผ่าตัด 
  • ผิวไม่เรียบ อาจเกิดจากการมีเลือดออกหรือน้ำเหลืองคั่งเฉพาะจุด โดยปกติจะสามารถหายเองได้โดยการนวดเบาๆ แต่ถ้าผิวยังคงไม่เรียบ แพทย์อาจพิจารณาให้ฉีดฟิลเลอร์หรือฉีดไขมันเพื่อทำให้ผิวเรียบ
  • รอยแผลเป็น มีโอกาสที่จะเป็นแผลเป็นนูน หรือแผลเป็นคีลอยด์ที่เกิดจากแรงตึงของแผลผ่าตัด รวมไปถึงพันธุกรรมก็สามารถทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้
  • การยึดของเส้นประสาทบนใบหน้า เป็นผลข้างเคียงที่พบได้น้อยมาก เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทบนหน้าบางส่วนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ แต่โดยส่วนมากแล้วจะกลับมาเป็นปกติได้ภายใน 3-6 เดือน
  •  

FAQ

พอจะรู้จักและเข้าใจการศัลยกรรมดึงหน้ากันบ้างแล้ว มาตอบคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหัตถการนี้กันบ้าง เพื่อให้ผู้อ่านนำไปประกอบการตัดสินใจในการเลือกทำหัตถการ

เลือกทำศัลยกรรมดึงหน้าที่ไหนดี

สามารถทำได้ที่สถานพยาบาลเสริมความงามตามความสะดวก แต่ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตและมีมาตรฐาน อย่างที่วลีรัตน์คลินิกมีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูงที่จะคอยดูแลให้คำแนะนำ รวมถึงมีเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยอีกด้วย

ผ่าตัดดึงหน้าอยู่ได้นานกี่ปี

โดยเฉลี่ยแล้วสามารถอยู่ได้นาน 5 ปี หากมีการดูแลตัวเองที่ดีอาจคงอยู่ได้ยาวนานถึง 10 ปี

หลังจากดึงหน้ากี่วันหาย และดีขึ้น

ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 3-4 วันจึงจะหายดีขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของแต่ละบุคคล

หลังผ่าตัดดึงหน้าจะเกิดรอยแผลเป็นหรือไม่

โดยปกติหลังจากแผลหายดีแล้วจะไม่เกิดรอยแผลเป็นทิ้งไว้ แต่ก็มีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นกับการดึงหน้าในผิวหนังชั้นตื้นได้เช่นกัน

การดึงหน้าสามารถทำได้ตั้งแต่อายุเท่าไร

สามารถทำได้ตั้งที่ผิวหนังบริเวณใบหน้ามีการหย่อยคล้อน แต่การดึงหน้าส่วนใหญ่มักจะทำกับผู้ที่มีอายุมาก ซึ่งเป็นวัยที่มีความหย่อนคล้อยมากแล้ว

Waleerat Clinic
Privacy Overview

This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.