PEG-HA filler
Neauvia
Waleerat Clinic
Neauvia นูเวียฟิลเลอร์ระดับพรีเมียมที่แพทย์ผิวหนังเลือกใช้
ปัญหาหนักใจเมื่ออายุเพิ่มขึ้นคือ ริ้วรอย ร่องลึก ความหย่อนคล้อย ก็เริ่มเป็นปัญหาที่เห็นได้ชัดขึ้น บางคนอายุยังไม่มาก แต่ผิวหย่อน มีร่องแก้มหรือร่องขมับที่เห็นชัด หรือหางตาตกจนดูแก่กว่าวัย
ทำให้ขาดความมั่นใจ สิ่งเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ว่าผิวกำลังขาดความแข็งแรง การที่จะให้ผิวกลับมาเรียบตึงได้เหมือนเด็กนั้น วิธีที่ง่ายและเร็วที่สุดก็คือ การฉีด “ฟิลเลอร์”
อีกหนึ่งนวัตกรรมเเห่งการชะลอวัย โดยที่ไม่ต้องศัลยกรรมให้เจ็บ แต่สามารถกลับมาดูเต่งตึงได้เหมือนเด็กอีกครั้ง
Neauvia filler คืออะไร
Neauvia Filler เป็นฟิลเลอร์สัญชาติอิตาลี่ ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุดสูงต่างจากฟิลเลอร์อื่นๆ เพราะมีส่วนผสมของแคลเซียม และให้ผลลัพธ์อย่างเป็นธรรมชาติ โดยสามารถเติมเต็มได้ทั่วใบหน้าและจุดที่บกพร่องหรือร่องลึกในร่างกาย
ฟิลเลอร์ของ Neauvia ใช้เทคโนโลยี cross linker เฉพาะกับ PEG ซึ่งมีความทนทานต่อความร้อนและให้ผลลัพธ์ทางเวชศาสตร์ความงามได้ดีที่สุดในปริมาณการฉีดที่น้อยที่สุด
PEG คืออะไร ?
PEG เป็น สารชีวโมเลกุลที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตยาทั้งยาเม็ดและยาน้ำ รวมถึงยารักษาโรคมะเร็ง โดยเป็นสารที่มีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นพิษ และไม่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
เมื่อนำมาใช้ในกระบวนการผลิต HA จะทำให้ PEG-HA Filler ที่ได้ มีคุณสมบัติของเนื้อเจลที่แตกต่างจาก Filler ตัวอื่น ดังนี้
- ไม่เป็นพิษต่อเซลล์ร่างกายและสามารถขจัดออกจากร่างกายได้หมดผ่านทาง ตับและไต
- ไม่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดการอักเสบ อาการบวมๆ ยุบๆ และการแพ้หลังฉีด
- เนื้อเจลมีลักษณะเหมือนยาง จากการ Cross link ของ Polymer 2 ชนิด คือ HA+PEG ทำให้ความยืดหยุ่นสูง ไม่แตก เติมเต็มและขึ้นรูปได้ดี
- เนื้อเจลทนความร้อนได้ดี จากการเป็น Double Polymer gel ทำให้สามารถทำร่วมกับ หัตถการเลเซอร์อื่นๆได้
- อยู่ได้ยาวนาน จากการที่ PEG ช่วยลดการถูกทำลายโดยเอนซ์ในร่างกาย
Neauvia Filler มีกี่รุ่น
ฟิลเลอร์ Neauvia Filler ได้ถูกออกแบบให้เข้ากับคนยุคใหม่มากยิ่งขึ้น โดยประเทศไทยมีฟิลเลอร์ Neauvia ทั้งหมด 3 รุ่น ดังนี้
- Neauvia Intense รุ่นนี้จะมี HA 28% เหมาะสำหรับการฉีดปรับรูปหน้า, เสริมคาง, ปรับสันกราม และฉีดยกกระชับใบหน้า และด้วยคุณสมบัติทนร้อนได้ดี จึงสามารถทำร่วมกับหัตถการเลเซอร์ได้อีกด้วย
- Neauvia Stimulate รุ่นนี้มี HA 26% และมี CaHA 1% เป็นฟิลเลอร์ที่มีขนาดโมเลกุลเล็ก เมื่อฉีดเข้าสู่บริเวณที่ต้องการจะไม่เกิดอาการแพ้และบวม ซึ่ง CaHA จะเป็นสารกระตุ้นคอลลาเจน (Biostimulator) ที่จะทำหน้าที่กระตุ้นคอลลาเจนชนิดที่ 1 และ 3 (Collagen Type I & III) ให้ผิวหนังดูดีขึ้นตามความต้องการ
- Neauvia Hydro Deluxe รุ่นนี้มี HA 18% เป็นฟิลเลอร์งานผิวที่มี HA มากที่สุดในกลุ่มฟิลเลอร์งานผิวอื่น ๆ และเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ ซึ่งรุ่นนี้จะไม่ใช้เทคนิค Crosslink ระหว่างไฮโดรเจล จึงทำให้เนื้อฟิลเลอร์ค่อนข้างเหลวกว่ารุ่นอื่น แต่ไม่มีอาการบวมและยังสามารถกระตุ้นการสร้างไฟโบรบลาสต์ใต้ผิวหนัง ซึ่งจะช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและอิ่มฟูมากขึ้น รวมทั้งลดรูขุมขนกว้างได้อีกด้วย
คุณสมบัติเด่นของ Neauvia:
ฟิลเลอร์ Neauvia มีคุณสมบัติที่แตกต่างจากฟิลเลอร์ชนิดอื่นตรงที่ Neauvia Filler ใช้วิธีการ Crosslink ระหว่างสารชีวโมเลกุลอย่าง Polyethylene Glycol (PEG) และ Hyaluronic Acid (HA)
ก่อให้เกิดโครงสร้างเจลที่แข็งแรงแต่ยืดหยุ่น ถึงแม้จะใช้ปริมาณน้อยแต่ก็ยังสามารถเพิ่มวอลลุ่มได้ดีและใน Neauvia Filler ยังมี Calcium Hydroxyapatite (CaHA)
ที่เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากธรรมชาติที่มีอยู่แล้วในร่างกายผสมอยู่ด้วย โดยมีคุณสมบัติกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ทำงานดีขึ้น โครงสร้างชั้นผิวอย่างคอลลาเจนและอีลาสตินจึงมีเพิ่มขึ้น จึงเติมเต็มและปรับรูปหน้าของเราให้สวยอย่างเป็นธรรมชาติ
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือ ฟิลเลอร์ Neauvia ยังมีความคงตัวเมื่อเข้าสู่กระบวนการปรับรูปหน้า สามารถทนต่อความร้อนและกระบวนการย่อยสลายภายในร่างกายได้ดีกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป จึงทำให้ผลลัพธ์ที่ดีอยู่ได้นานกว่าที่เคย
Neauvia filler เหมาะกับใคร
Neauvia เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมความงามโดยไม่ต้องการผ่าตัด และต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ รวมถึงผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิวและเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป
- ผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ
- ผู้ที่หน้าโทรม ผิวหมองคล้ำจากมลภาวะ
- ผู้ที่ผิวขาดความยืดหยุ่นและผิวไม่กระชับ
- ผู้ที่ไม่สามารถฉีดโบท็อกได้ แต่มีริ้วรอยร่องลึกต้องรักษา
- ผู้ที่มีหลุมสิว, รอยสิว, ผิวไม่เรียบเนียน และรูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่แพ้สาร BDDE (Butanediol Diglycidyl Ether) หรือสารที่ก่อให้เกิดการ Crosslink ในฟิลเลอร์อื่น ๆ
- ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หรือมีการอักเสบสามารถฉีดได้
Neauvia Filler นิยมฉีดตรงไหนบ้าง?
ช่วยทำให้ร่องแก้มที่ลึก ดูตื้นขึ้น
Neauvia Filler มีความอ่อนโยนต่อผิวมาก ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ได้ โดยเฉพาะบริเวณที่ต้องการเพิ่มความกระชับและความยืดหยุ่นให้กับผิวอย่างเช่นร่องแก้ม
ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูโฉบเฉี่ยว
ช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้าให้ดูโฉบเฉี่ยวมีมิติมากยิ่งขึ้นเพราะมีส่วนประกอบของCalcium Hydroxyapatite (CaHA) ที่เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน จึงช่วยเติมเต็มและปรับรูปหน้าของเราให้สวยอย่างเป็นธรรมชาติ
ช่วยเติมเต็มร่องลึกใต้ตา
ลดความหมองคล้ำและร่องลึกใต้ตา ทำให้ดวงตาดูสดใสและไม่เหนื่อยล้ายังมีส่วนผสมพิเศษจาก L-Proline และ Glycine ที่จำเป็นต่อร่างกาย มีคุณสมบัติในการปรับสมดุลน้ำของร่างกาย (Osmolytes) ทำให้ไม่เกิดอาการหน้าบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ ทั้งยังเป็นสารตั้งต้นในการผลิตคอลลาเจนในการร่างกาย
สรุปได้ว่า Neauvia Filler สามารถเติมเต็มชั้นผิว ปรับโครงหน้าให้ดูมีมิติขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในร่างกาย
มีความปลอดภัยกว่าฟิลเลอร์ทั่วไปที่ไม่ก่อให้เกิดสารพิษตกค้าง รวมถึงมีฤทธิ์ต้านการอักเสบใต้ผิวหนังอยู่ในส่วนผสมอีกด้วย
Neauvia Filler กี่ครั้งเห็นผล?
การฉีด Neauvia Filler เพื่อปรับโครงสร้างใบหน้า สามารถเลือกใช้รุ่น Neauvia Intense และ Neauvia Stimulate ฉีดเพียง 1 ครั้งจะให้ผลลัพธ์ยาวนานตั้งแต่ 6-12 เดือน
สำหรับผู้ที่ต้องการปรับคุณภาพผิวควรฉีด Neauvia Filler รุ่น Hydro Deluxe ต่อเนื่อง 3 ครั้ง โดยเว้นระยะการฉีดเดือนละ 1 ครั้ง จะทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น จากนั้นค่อยปรับระยะเวลาการฉีดเป็นปีละ 1 ครั้ง ตามลำดับเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินใบหน้าและสภาพผิว เพราะความถี่ในการฉีดฟิลเลอร์ Neauvia จะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล
FAQ
Neauvia ฟิลเลอร์ ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะอย่าง New technologyà SXT link ที่เป็นเทคโนโลยีพิเศษ ไม่ก่อให้เกิดการอักเสบ หรืออาการแพ้หลังจากทำการฉีด เนื่องจากใช้สาร PEG ซึ่งเป็นสารประเภท Cross Link ที่สำคัญทนความร้อนสามารถทำคูกับหัตถการเครื่องยกกระชับรวมไปถึงเลเซอร์ได้
ปกติอายุของฟิลเลอร์จะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาหลังทำและขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของแพทย์ในการฉีด
Neauvia ฟิลเลอร์จะช่วยเติมน้ำให้แก่ผิวบริเวณที่ฉีดไป เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้นสิ่งที่ผิวหนังก็จะแก่ตัวลงเช่นกัน เราจึงสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้โดยการเติม CAHA และ กรดอะมิโนเพื่อให้สารดังกล่าวเข้าไปทำหน้าที่ในการ boost การทำงานของผิว และใต้ชั้นผิวเป็นปกติ สร้างความชื้น ปรับให้ผิวดีขึ้น รูขุมขนล็กลง ปรับให้สีผิวมีความสม่ำเสมอ เม็ดสีผิวที่ดูไม่เท่ากันกลับจางลง
สามารถฉีดได้เพราะมีส่วนผสมพิเศษจาก L-Proline และ Glycine ที่จำเป็นต่อร่างกาย มีคุณสมบัติในการปรับสมดุลน้ำของร่างกาย (Osmolytes) ทำให้ไม่เกิดอาการหน้าบวมหรืออักเสบหลังฉีดฟิลเลอร์ ทั้งยังเป็นสารตั้งต้นในการผลิตคอลลาเจนในการร่างกาย
