Waleerat Clinic

อ่านที่เดียวจบ ทุกเรื่องที่คุณอยากรู้เกี่ยวกับร้อยไหม ล่าสุดปี 2023

ร้อยไหม คือ เทคนิคที่ของกระบวนการปรับรูปใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับคนที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย หรือมีริ้วรอยบนใบหน้า อันเป็นผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลงไปตามวัย 

การร้อยไหมจะเข้ามาช่วยยกกระชับ ฟื้นฟูสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอย รวมถึงปรับรูปหน้าให้ดูเรียว อ่อนเยาว์ขึ้น

มารู้จักการร้อยไหม
นวัตกรรมสวยเรียวได้แบบไม่ต้องผ่าตัด

ร้อยไหมคืออะไร

ร้อยไหม เป็นการเอาเส้นไหมมาร้อยเป็นเครือ ณ บริเวณใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวบริเวณที่ทำการร้อยนั้น เกิดการอักเสบ นำไปสู่การสร้างเส้นเลือดใหม่ กระตุ้นเซลล์ผิวสร้างเส้นใยของคอลลาเจนขึ้นมา ทำให้ใบหน้ายกกระชับ เรียวได้รูปขึ้น 

ร้อยไหมช่วยฟื้นฟูสภาพของผิว โดยไม่จำเป็นที่จะต้องผ่าตัด ซึ่งถือว่าเป็นนวัตกรรมที่มีความรวดเร็ว และเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนหลังทำ

ไหมที่ได้รับความนิยมในการร้อยไหมนั้นจะเป็นไหมละลาย มีคุณสมบัติย่อยสลายได้ผ่านกระบวนการธรรมชาติของร่างกาย โดยตัวไหมนั้นจะมีความสามารถในการสลาย ภายใน 8 เดือน โดยที่ไม่มีสารตกค้างในชั้นผิว

ผลลัพธ์การร้อยไหม หลังจากที่ทำการร้อยไหมเสร็จจะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที 30% และจะยิ่งเห็นผลลัพธ์ความกระชับและเข้ารูปของใบหน้าได้ชัดเจนยิ่ง หลังจากที่ผิวเข้าที่ 3 เดือนโดยประมาณ ซึ่งผลของความยกกระชับเข้ารูปนั้น 

ร้อยไหมสามารถอยู่ได้ประมาณ 2 ปีขึ้นไป โดยผลลัพธ์ที่ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

เลือกหัวข้อที่คุณสนใจ

ร้อยไหมบริเวณไหนได้บ้าง

ร้อยไหมใบหน้า

ร้อยไหมใบหน้า

ร้อยไหมใบหน้าช่วนให้หน้าเรียว ยกกระชัให้หน้าเด็ก  สามารถยกร่องแก้ม แก้หน้าตอบ เก็บเหนียง รักษาฝ้า-กระ และยกมุมปาก

ร้อยไหมตา

ร้อยไหมตา

ร้อยไหมยกหางตา ยกคิ้ว เติมเต็มร่องน้ำตา

ร้อยไหมคอ

ร้อยไหมคอ

ร้อยไหมยกกระชับคอ ลดเส้นคอที่เป็นชั้น

ร้อยไหมจมูก

ร้อยไหมจมูก

ร้อยไหมยกสันจมูก เสริมจมูก และปีกจมูก

ร้อยไหมหน้าอก

ร้อยไหมหน้าอก

ร้อยไหมยกกระชับหน้าอก ปรับทรงให้ดูอ่อนเยาว์

Waleerat Clinic พร้อมให้คำปรึกษาแบบครบครัน

การร้อยไหม vs ฉีดไหม
แตกต่างกันไหม

ร้อยไหม คือเทคนิคการกระตุ้นให้เซลล์ผิวหน้าสร้างคอลลาเจนขึ้นมา ให้ได้ผิวหน้าที่อ่อนเยาว์และกระชับมากขึ้น โดยใช้วิธีร้อยไหมเข้ากับใบหน้าเพื่อให้เกิดการกระตุ้นดังกล่าว

ฉีดไหม นั้นเป็นเทคนิคกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังผลิตคอลลาเจนเพื่อให้ได้ผิววัยเยาว์ ไม่หย่อนคล้อย กระชับรูปใบหน้าเช่นเดียวกันกับการร้อยไหม แต่วิธีที่ใช้นั้น จะฉีดไหมที่เคลือบด้วยยาสลายไขมันเข้าไปบริเวณผิวใบหน้า เพื่อสลายเซลลูไลท์หรือไขมันส่วนเกินในบริเวณที่เราต้องการ นับว่าาเป็นอีกหนึ่งกรรมวิธียกกระชับ คืนความเยาว์ให้ใบหน้าโดยไม่ทิ้งสารอันตรายตกค้างภายในร่างกาย

นอกจากการฉีดไหมแล้ว ยังมีการฉีดไหมน้ำเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเพิ่มเติม 

ฉีดไหมน้ำ คือ การเติมเต็มผิวหน้า ซึ่งการฉีดไหมน้ำนั้นสามารถฉีดเพื่อแก้ไขปัญหาจุดต่างๆ ได้แทบทุกบริเวณบนใบหน้า 

ผลลัพธ์ที่ได้หลังการฉีดไหมน้ำคอลลาเจนนั้น คือ ผิวกระชับ ริ้วรอยลดลง แก้ไขริ้วรอยและความหมองคล้ำใต้ตา รวมไปถึงปัญหาร่องแก้มลึก ส่งผลให้บริเวณใต้ตาและผิวพรรณบนใบหน้าอิ่มเอิบ แลดูสดชื่น เปล่งปลั่ง และมีมิติมากขึ้น

เปรียบเทียบระหว่างการร้อยไหมและการฉีดไหม

เหมือนกัน คือ สามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิว ทำให้ผิวเรามีความกระชับยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด และช่วยกระตุ้นผิวหนังในการสร้างคอลลาเจน ขึ้นมาใหม่ 

ความแตกต่างระหว่างร้อยไหมกับฉีดไหม 

คือ วิธีในการรักษาปัญหาผิวหน้านั่นเอง ซึ่งการร้อยไหมจะใช้เทคนิควิธีการการร้อย ไหมบริเวณใต้ผิวหนัง

ส่วนการฉีดไหม จะเป็นการฉีดไหมที่มีการเคลือบด้วยตัวยาสลายไขมันเข้าไปในผิว เพื่อทำการสลายไขมันส่วนเกินในบริเวณที่เราต้องการนั่นเอง

การร้อยไหมเหมาะกับใคร

ใครเหมาะกับการร้อยไหม

เหมาะ

เหมาะกับคนที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ที่ต้องการดูแลรักษาความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ รวมถึงริ้วรอยเหี่ยวย่นบน ใบหน้า ต้องการยกกระชับทันที

ใครไม่เหมาะกับการร้อยไหม

ไม่เหมาะ

ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหนัง หรือผิวหนังติดเชื้อบริเวณรูเปิดไหม มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่เกินไป และเคยฉีดสารเหลวหรือซิลิโคนเหลวบนบริเวณใบหน้า 

นอกจากนี้ กรณีที่มีไขมันบริเวณแก้มเยอะเกินไปก็ถือว่าไม่เหมาะที่จะร้อยไหม ควรรับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้น เช่น ฉีดสลายไขมัน หรืออื่นๆ ก่อนเข้ารับบริการหัตถการ

การร้อยไหมอันตรายไหม? มีข้อดี - ข้อเสียอะไรบ้าง?

ข้อดีของการร้อยไหม

• เห็นผลทันทีหลังทำ
• ไม่ต้องพักฟื้น
• ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
• ปลอดภัย ไม่มีสารตกค้าง
• ปรับรูปหน้า ให้สมดุล แก้ปัญหา
• ใบหน้าหย่อนคล้อยแก้มตอบ ร่องแก้ม

ข้อเสียของการร้อยไหม

• ร้อยไหมแล้วหน้าเบี้ยว
• ร้อยไหมแล้วหน้าเป็นรอยบุ๋ม
• ร้อยไหมแล้วหน้าเป็นคลื่น
• ร้อยไหมแล้วโหนกแก้มใหญ่
• ร้อยไหมแล้วเป็นพังผืด
• ร้อยไหมแล้วเป็นหนอง
• ร้อยไหมแล้วไหมขาด ไหมทะลุ

ไหมมีกี่ชนิด ลักษณะหน้าตาของไหมแต่ละชนิด

ไหมละลาย

ไหมที่ใช้สำหรับการร้อยไหมนั้น ปัจจุบันจะมีด้วยกันอยู่ 2 แบบ คือ ไหมไม่ละลาย และไหมละลาย 

ไหมที่คลินิกส่วนใหญ่เลือกใช้นั้นเป็นไหมละลาย เพราะเป็นไหมที่รับรองได้ว่าปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง ไม่ทิ้งสารตกค้างอันตรายหรือกระตุ้นภาวะแทรกซ้อน ซึ่งไหมทั้ง 2 แบบมีลักษณะแตกต่างกัน ดังนี้

ไหมไม่ละลาย

ไหมทองคำ เป็นไหมชนิดแบบไม่ละลาย ที่อาจอันตราย และไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการร้อยไหมโดยทั่วไปเท่าไหร่นัก 

ผู้ที่ร้อยไหมทอง ไม่สามารถเข้าเครื่องเอ็มอาร์ไอ (MRI) หรือการตรวจเอกซเรย์ ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้ เนื่องจากทองคำเป็นโลหะ จะมีความร้อนสูง ทำให้ภายในไหม้ และทำให้หน้าผิดรูปจนเสียโฉมได้

ชนิดของเข็มที่ใช้ในการร้อยไหม

ในการร้อยไหม จะมีการใช้เข็มลักษณะต่างๆ เพื่อนำเส้นไหมเข้าสู่ชั้นผิว โดยตัวแพทย์ผู้ร้อยไหมนั้น ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการเลือกใช้เข็มกับลักษณะการใช้งานให้เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงในการบวมเลือดและบวมน้ำนั่นเอง 

โดยเข็มแต่ละชนิดที่จะเลือกใช้เพื่อร้อยไหมนั้น มีข้อดีและข้อเสีย ดังนี้

เข็มแหลม

เข็มแหลม
(Sharp Needle)

จะมีกลไกการตัดผ่านเนื้อคล้ายๆ การใช้มีดคมตัดแต่เจ็บน้อยกว่า บวมน้ำน้อยกว่าบวมเลือด โดยเส้นเลือดเล็กๆ ที่โดนตัดผ่าน จะสมานได้ไวกว่าการใช้เข็มทู่ แต่ถ้าตัวมีดโดนเส้นเลือดใหญ่ 

ก็จะมีโอกาสบวมเลือดได้ การใช้เข็มแหลมจึงต้องอาศัยประสบการณ์ และความระมัดระวังของศัลยแพทย์สูง

เข็มตัด

เข็มตัด
(Bullet-type Blunt)

เข็มตัดเป็นเข็มกึ่งแหลมกึ่งทู่ โดยตัวปลายเข็มมีลักษณะคล้ายหลอด มีความคมแต่ไม่ได้แหลมเท่าเข็มแหลม

เข็มทู่
(W-type Blunt)

การใช้เข็มชนิดนี้ในการร้อยไหมนั้น อาจจะมีโอกาสเกิดการบวมน้ำได้ ลักณะรอยเมื่อเข็มผ่านเนื้อจะอยู่ในลักษณะฉีกออกคล้ายๆ การใช้มีดทื่อตัด ตัวเข็มทู่สามารถหลบเส้นเลือดใหญ่ 

แต่ยังสามารถตัดเส้นเลือดเล็กให้ขาดได้ ในการร้อยไหมจะใช้เข็มทู่ที่ใหญ่กว่าเข็มทู่ที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์

เข็ม L

เข็ม L
(L-type Blunt)

เป็นเข็มที่ได้รับการพัฒนาต่อจากเข็มตัดอีกขั้น ส่วนปลายของเข็มจะแหลมกว่าเข็มตัด สามารถช่วยลดอาการบวมและรอยช้ำในบริเวณที่รักษาได้ยาก 

จึงเหมาะกับการฝึกหรือใช้รักษาในจุดเสี่ยงต่อผลข้างเคียงได้

บริการร้อยไหมของ Waleerat Clinic
มีอะไรบ้าง

บริการร้อยไหมของ Waleerat Clinic มีให้บริการหลายแบบให้เลือกเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้า ตามสภาพผิวและปัญหาของแต่ละบุคคล ที่ต้องการดูแลด้วยการร้อยไหมมีให้บริการอะไรบ้าง ดังนี้
บริการร้อยไหม

เลือกบริการร้อยไหมแบบไหนถึงจะใช่กับปัญหาผิวเรา?

ขั้นตอนการร้อยไหม

การร้อยไหม ช่วยให้ใบหน้ากระชับและดูดีขึ้น 

ซึ่งสิ่งที่ผู้ที่ร้อยไหมควรเตรียมตัว ดังนี้

ร้อยไหมขั้นตอน 1

1. วิเคราะห์โครงหน้าและบริเวณในการร้อยไหม

ศัลยแพทย์จะประเมินแนวทางและวิธีการรักษา วัสดุและจำนวนของไหม รวมถึงเทคนิคในการร้อยไหมจากการวิเคราะห์ปัญหาผิวหนังจากใบหน้าของผู้เข้ารับบริการ
ร้อยไหมขั้นตอน 2

2. จัดเตรียมผิวหน้าก่อนเริ่มร้อยไหม

ทำความสะอาดผิวหน้า ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อเตรียมผิวหนังบริเวณใบหน้าให้ปราศจากเชื้อ พร้อมสำหรับการร้อยไหม ดังนั้น จึงไม่ควรจับใบหน้าหลังการฆ่าเชื้อ เพราะทำให้เชื้อโรคปนเปื้อนได้

ฉีดยาชา โดยจะฉีดตัวยาชาเข้าไปใต้ผิวหนังตามแนวไหมที่จะร้อย คนไข้จะรู้สึกแสบเล็กน้อยจากตัวยาชา ใช้เวลาออกฤทธิ์ประมาณ 5 นาที แล้วจึงเริ่มกระบวนการร้อยไหม

วาดจุดบนใบหน้า เนื่องจากผู้เข้ารับบริการมีเงื่อนไข ลักษณะใบหน้า หรือปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ทางศัลยแพทย์จึงต้องประเมินเพื่อวิเคราะห์แนวทางและวิธีการรักษา 

การวาดจุดบนใบหน้าเพื่อวางแผนแก้ปัญหาอย่างตรงจุด โดยแนวการวางไหมพื้นฐานแล้วจะเริ่มต้นที่ 4 เส้น แบ่งเป็นข้างละ 2 เส้น และจะปรับไปตามปัญหา และรูปหน้าของคนไข้

ร้อยไหมขั้นตอน 3

3. กระบวนการร้อยไหมและการปิดแผล

แพทย์จะค่อยๆ ใส่เส้นไหมเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง SMAS ทีละเส้น ตามแนวไหมที่ประเมินไว้ คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเนื่องจากฤทธิ์ของยาชา จะมีเพียงความรู้สึกตึงเล็กน้อยจากการร้อยไหม

เมื่อแพทย์ร้อยไหมตามแนวไหมที่ประเมินไว้จนเสร็จสิ้นแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายของการร้อยไหม คือทำการตัดไหม หรือในไหมบางชนิดจะมีการผูกปมไหม ซึ่งเมื่อตัดปลายไหมออก จะไม่เห็นเส้นหรือปมไหมแต่อย่างใด จากนั้นก็จะทำความสะอาดผิวหน้าและปิดพลาสเตอร์บริเวณรูไหมให้กับคนไข้ เป็นอันจบขั้นตอน

ทำไมถึงต้องร้อยไหมที่ Waleerat Clinic

อันดับ 1 เรื่องของการร้อยไหมในเอเชีย พร้อมด้วยแพทย์ที่เป็นอาจารย์สอนและได้รับรางวัลด้านร้อยไหมระดับเอเชีย ทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปีในด้านการร้อยไหมโดยเฉพาะ

พร้อมด้วยเครื่องมือ และความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานของคลินิกระดับสากล

ร้อยไหมที่ Waleerat Clinic ราคาแพงไหม?

ราคาร้อยไหม voline
ราคาร้อยไหม onyx
ราคาร้อยไหม grand diamond
ราคาร้อยไหม emerald

ก่อน-หลังร้อยไหม
ดูแลตัวเองยังไงดี

สำหรับผู้ที่สนใจ และตั้งใจจะเข้ารับบริการร้อยไหมเพื่อรักษาปัญหาผิวด้วยวิธี อีกหนึ่งสิ่งที่ควรรู้ คือ วิธีการเตรียมตัวและการดูแลผิวตัวเอง ทั้งก่อนทำและหลังทำซึ่งส่งผลกับผลลัพธ์ได้อย่างคาดไม่ถึง ซึ่งวิธีการเตรียมตัวที่ว่ามานั้น มีดังต่อไปนี้
ก่อนร้อยไหม

ก่อนทำการร้อยไหม

ศึกษาข้อมูล ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับการร้อยไหมอย่างละเอียด เช่น การเลือกคลินิก การเลือกหมอ และเทคนิคในการทำ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย และช่วยลดความกังวล เกี่ยวกับผลข้างเคียงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
งดการแว็กผิว การดึงขน กำจัดขน หรือทำกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่เป็นเหตุให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวเป็นเวลา 3 วัน ก่อนทำหัตถการ
มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ หรือเตรียมข้อมูลยาที่กินเป็นประจำ เพื่อแจ้งกับศัลยแพทย์ก่อนที่จะทำหัตถการ
• งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด 24 ชม. ก่อนเข้ารับหัตถการ เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายชนิด cardio
งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชม. ก่อนเข้ารับบริการหัตถการดังกล่าว

หลังร้อยไหม

ดูแลตัวเองหลังจากร้อยไหม

เลี่ยงแตะจุดที่ผ่านการร้อยไหม รวมถึงการเกา การกดนวด ตรงผิวหนังบริเวณนั้นๆ ซึ่งอาการต่างๆ หลังทำการร้อยไหมนั้นจะค่อยๆดีขึ้น ภายใน 2-3 วัน
ไม่ควรนวดหน้าแรงๆ ตรงบริเวณที่ร้อยไหม เป็นเวลา 2 เดือน
กินยาฆ่าเชื้อ ในกรณีที่ไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อก่อนเข้ารับบริการหัตถการ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที
งดหัตถการอื่นๆ เช่น การยิงเลเซอร์ หรือหัตถการใดๆ ที่ต้องใช้ความร้อนลงผิวชั้นลึก เป็นเวลา 1 เดือน
งดหมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู หรือมื้ออาหาร กิจกรรมที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทุกชนิด
งดอาหารรสจัด ไม่ว่าจะหวานจัดหรือเผ็ดจัด เพราะจะกระตุ้น กระบวนการอักเสบได้
งดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด อาจเป็นอันตรายได้

Before & After

รีวิวร้อยไหม

จากเดิมจะเห็นได้ว่าใบหน้ามีร่องแก้มค่อนข้างลึก และใบหน้าดูไม่กระชับ แต่หลังจากการทำร้อยไหมจะเห็นได้ว่าร่องแก้มนั้นหายไป พร้อมทั้งหน้ายังกระชับและดูเรียวมากยิ่งขึ้น
รีวิวร้อยไหม

FAQ

อาจมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยแต่ไม่รุนแรง เพราะ ศัลยแพทย์จะใช้ยาชาร่วมด้วย เพื่อบรรเทาความเจ็บขณะร้อยไหม

โดยทั่วไปแล้ว หลังร้อยไหม ในช่วง 3-4 วันแรกจะบวมมากขึ้น และหลังจากนั้น อาการบวมจะเริ่มยุบลง จนเข้าที่ใน 14 วัน และเห็นผลชัดเจนในช่วงประมาณ 2 เดือน

ผลลัพธ์จากร้อยไหมอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ส่วนใหญ่จะใช้ไหมประมาณ 4-10 เส้น สามารถเห็นผลลัพธ์ได้หลังทำ และจะเห็นความเข้ารูปกระชับของใบหน้า เห็นผลลัพธ์สูงสุดหลังการร้อยไหม 1 เดือน
การร้อยไหม สามารถทำได้เรื่อยๆ เพราะไหมที่ใช้เป็นไหมละลาย ปลอดภัย สลายหมด 100% ไม่มีสารตกค้าง เมื่อไหมละลาย หากอยากให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น สามารถร้อยไหมเข้าไปตามแนวเดิม จะทำให้ผิวจะยึดเกาะไหมได้ดีขึ้น และอยู่ได้นานขึ้น