เสริมจมูก
4D Nose
เทคนิคใหม่ทำจมูกด้วยฝีเย็บ 4 มิติ
เก็บทรงสวย
ศัลยกรรมจมูกเป็นการปรับรูปทรงจมูกให้รับกับสัดส่วนของรูปหน้า จมูกเป็นจุดศูนย์กลางของใบหน้า เป็นส่วนที่สร้างมิติให้กับใบหน้าได้ดีที่สุด
หากมีจมูกที่ทรงสวยได้รูป ก็จะทำให้ใบหน้าดูมีมิติ และมีเสน่ห์มากขึ้น
การเสริมจมูกจึงเป็นการศัลยกรรมความงามที่ได้รับความนิยม และหลายคนเลือกทำจมูกเป็นอันดับแรก ซึ่งในบทความนี้จะพาไปรู้จักกับ
ศัลยกรรมจมูกด้วยเทคนิคใหม่ เสริมจมูกแบบ 4D Nose การตกแต่งและการดูแลตนเองหลังเสริมจมูก
เสริมจมูก คืออะไร
เสริมจมูก 4D Nose เป็นเทคนิคใหม่ในการศัลยกรรมจมูก ด้วยการออกแบบ และประเมินทรงจมูกจาก “สัดส่วนทองคำ”
เพื่อปรับมิติทรงจมูกให้เข้ากับใบหน้าได้สมบูรณ์แบบที่สุด
ออกแบบผสมผสานกับหัตถการแพทย์ขั้นสูงสุด การกรีด การวาง หรือการเหลาซิลิโคนเป็นไปด้วยความประณีตในทุกขั้นตอน จัดการให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
เย็บเก็บรายละเอียดชั้นเนื้อจมูกด้วยฝีเย็บ 4 มิติ ทำให้ผลลัพธ์หลังทำจมูกมีมิติสวยคมมากขึ้น
เสริมจมูกเหมาะกับใคร
เสริมจมูก 4D Nose
เหมาะกับผู้ที่ปัญหาโครงสร้างจมูกไม่ได้สัดส่วน
จมูกสันมีฮัมพ์
สันจมูกสะดุด แลดูเป็นจมูกทรงหัก
ขาดความมั่นใจเมื่อหันข้าง
จมูกแบนไร้มิติ
สันจมูกแบนราบ แลดูขาดมิติบนใบหน้า
องค์ประกอบหน้าแลดูไม่ได้สัดส่วนที่ชัดเจน
จมูกเนื้อน้อย
สังเกตจากการดึงเนื้อบริเวณสันจมูกนั้นจะพบว่าเนื้อน้อย หรือไม่สามารถดึงออกมาได้เยอะ
เสริมจมูกใช้เทคนิคอะไรได้บ้าง
การเสริมจมูกจะใช้วัสดุซิลิโคนหรือเนื้อเยื่อเทียมมาเสริมตรงสันจมูกหรือรองปลายจมูก
เทคนิคการเสริมจมูก
3 แบบ ได้แก่ แบบเปิด แบบกึ่งเปิด และแบบปิด
เทคนิคการเสริมจมูกแบบ Open
เป็นการผ่าตัดเปิดแผลเข้าไปผ่านเนื้อฐานจมูกที่อยู่ระหว่างรูจมูกโดยตรง แพทย์สามารถเห็นโครงสร้างของกระดูกอ่อนได้อย่างชัดเจน ปรับแต่งได้สะดวก และสามารถแก้ไขได้ตรงจุด ทำให้ลดการใช้ซิลิโคนที่ไม่จำเป็น
สามารถใช้เทคนิคการตกแต่งต่างๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาสวยงาม แลดูเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้เทคนิคแบบเปิด จะใช้ระยะเวลาผ่าตัด และต้องพักฟื้นนาน มีโอกาสที่แผลจะเป็นพังผืด หรือคีลอยด์ได้
เทคนิคการเสริมจมูกแบบ Semi-Open
เป็นการผ่าตัดเปิดแผล 2 ข้าง ให้เห็นโครงสร้างจมูกด้านในทั้งหมด แต่ไม่มีแผลกลางจมูก เพราะเทคนิคนี้พัฒนาขึ้นเพื่อลดโอกาสภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เช่น เนื้อเยื่อขาดเลือด เนื้อจมูกอักเสบติดเชื้อ พังผืดดึงรั้งจมูกให้ผิดรูปทรง
รวมถึงการเกิดรอยแผลเป็นคีลอยด์ที่ฐานจมูกระหว่างรูจมูก 2 ข้าง
เสริมจมูกด้วยเทคนิคกึ่งเปิดนี้ ครอบคลุมการแก้ไขปัญหาโครงสร้างจมูกของคนไทยได้แทบทั้งหมด และเกิดปัญหาหลังเสริมจมูกตามมาน้อย เนื่องจากแผลหายไว อาจจะมีอาการบวมช้ำเพียงเล็กน้อย
เทคนิคการเสริมจมูกแบบ Close
การผ่าตัดเปิดแผลภายในรูจมูก อาจเปิดแผลข้างเดียว หรือทั้ง 2 ข้าง แล้วใส่ซิลิโคนเสริมจมูกเข้าไป มีความซับซ้อนน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด เนื่องจากรบกวนเนื้อเยื่อน้อย
ซ่อนแผลในรูจมูก จึงมองไม่เห็นรอยแผล แต่เทคนิคนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างจมูกที่ซับซ้อนได้ และมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาซิลิโคนเอียง ซิลิโคนลอย เนื่องจากการเปิดแผลที่ไม่เท่ากัน
เทคนิคการตกแต่ง
การผ่าตัดเปิดแผลภายในรูจมูก อาจเปิดแผลข้างเดียว หรือทั้ง 2 ข้าง แล้วใส่ซิลิโคนเสริมจมูกเข้าไป มีความซับซ้อนน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด เนื่องจากรบกวนเนื้อเยื่อน้อย
ซ่อนแผลในรูจมูก จึงมองไม่เห็นรอยแผล แต่เทคนิคนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างจมูกที่ซับซ้อนได้ และมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาซิลิโคนเอียง ซิลิโคนลอย เนื่องจากการเปิดแผลที่ไม่เท่ากัน
ตัดแต่งเนื้อบริเวณฐานปีกจมูก แล้วเย็บเพื่อให้จมูกดูแคบลง
ปรับแต่งกระดูกอ่อนบริเวณปลายจมูก เพื่อแก้ปัญหาจมูกบาน จมูกชมพู่
เย็บปลายจมูก เพื่อให้ปลายจมูกดูเรียว และพุ่งขึ้น
เสริมปลายจมูกด้วยการใช้กระดูกอ่อนหลังหู เพื่อเพิ่มมิติให้กับปลายจมูก
เพิ่มปลายจมูกให้ดูมีมิติ ด้วยการรองปลายจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม หรือซิลิโคน
ทำให้จมูกดูเล็กลง ลดความกว้างของจมูก เพิ่มสันจมูกขึ้นมาเล็กน้อย
ตะไบกระดูกฮัมพ์ตรงสันจมูก เพื่อแก้ปัญหาจมูกหัก จมูกงุ้ม สันจมูกไม่เรียบ
เสริมจมูกแบบ 4D Nose ของ Waleerat
แพทย์จะทำการพิจารณาปัญหาของแต่ละเคส ว่าควรใช้เทคนิคเสริมจมูกแบบใด หรือจะมีการตกแต่งจมูกด้วยเทคนิคไหน
การออกแบบ Case by Case ทำให้คนไข้มั่นใจได้ว่าจะได้รับการแก้ไขปัญหาโครงสร้างจมูกด้วยวิธีที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด
ใช้ซิลิโคนแบบไหน
การเสริมจมูกต้องใช้ซิลิโคน เพราะจะได้รูปทรงที่แน่นอน และสามารถปรับให้เข้ากับจมูกได้หลายรูปแบบ โดยซิลิโคนแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป
ซิลิโคนที่ขึ้นเป็นรูปทรงมาให้แล้ว เรียกชื่อตามลักษณะทรงจมูก เช่น ซิลิโคนบาร์บี้ ซิลิโคนแมนทิส ซิลิโคนแบบ L-shape
ซึ่งซิลิโคนสำเร็จรูปมีโอกาสเบี้ยวหรือเอียงน้อย แต่อาจจะไม่เหมาะกับทุกคน
ซิลิโคนแบบเหลาเอง
จะมีรูปทรงเป็นแท่งหรือบล็อคสี่เหลี่ยม แพทย์จะเป็นคนออกแบบ และเหลาซิลิโคนให้มีทรงเข้ากับรูปจมูกของแต่ละเคส ซึ่งแพทย์ต้องอาศัยประสบการณ์ ความชำนาญ และความแม่นยำ
นอกจากนี้สามารถแบ่งย่อยออกไปตามลักษณะความอ่อน-แข็งของซิลิโคน ได้แก่ แข็ง, แข็งปานกลาง, นิ่ม และนิ่มมาก
ทั้งนี้ซิลิโคนที่ใช้ในการเสริมจมูกแบบ 4D Nose จะใช้วัสดุซิลิโคนชนิดนิ่มพิเศษ คุณภาพระดับพรีเมียม
Waleerat Clinic จะใช้เทคนิคเฉพาะเหลาปรับทรงเอง พิจารณาเป็น Case by Case เพื่อดันโครงสร้างจมูกให้สวยได้รูป และเข้ากับรูปหน้าของแต่ละคน
ขั้นตอนการศัลยกรรมเสริมจมูก
- อาจารย์แพทย์จะทำการประเมินใบหน้า และวิเคราะห์ปัญหาทรงจมูก เพื่อแนะนำเทคนิคที่เหมาะสมที่สุด
- แพทย์ออกแบบทิศทางการวางซิลิโคนก่อนทำหัตถการ และวางแบบการเย็บทรงจมูกแบบ 4D
- ก่อนทำหัตถการ แพทย์จะเหลาซิลิโคนจมูกเคสต่อเคส เพื่อให้ได้ทรงจมูกที่เหมาะสม มีองศารับกับใบหน้า
- แพทย์เย็บแผลอย่างละเอียดทุกจุดในขณะเย็บล็อกทรงจมูก ทุกเคสทำโดยอาจารย์แพทย์เท่านั้น
- หลังทำเสร็จ อาจารย์แพทย์ใส่เฝือกเพื่อล็อกองศาทรงจมูก 4D และเพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของทรงจมูก
การดูแลตัวเอง ก่อน-หลัง
เสริมจมูก
- งดรับประทานวิตามินและอาหารเสริมทุกชนิดก่อนการผ่าตัด ระยะประมาณ 7 – 10 วัน
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้แผลหายช้า และเสี่ยงติดเชื้อได้
- หลังจากการปรับแก้ทรงจมูกควรหลีกเลี่ยงการนอนราบ หรือนอนตะแคง แนะนำให้ใช้หมอนรองคอหนุนระหว่างนอน เพื่อลดความเสี่ยงจมูกเสียทรง
- ในช่วงแรกหลังการศัลยกรรมจมูก ควรประคบเย็น 4 – 5 วันแรก เพื่อลดอาการบวมแดงที่อาจเกิดขึ้นได้
- งดแต่งหน้าเป็นเวลา 7 วัน ใช้สำลีชุบน้ำสะอาด หรือน้ำเกลือเช็ดทำความสะอาด บริเวณทั่วใบหน้า
- งดออกกำลังกาย หรือยกของหนัก เพราะอาจจะทำให้จมูกผิดรูปทรง หรือกระทบกระเทือนได้
เสริมจมูก 4D Nose ที่ไหนดี
หากใครที่กำลังตัดสินใจเสริมจมูก แต่ยังไม่รู้ว่าจะเสริมจมูกที่ไหนดี ขอแนะนำ Waleerat Clinic คลินิกเสริมความงามที่มีการสะสมประสบการณ์กว่า 10 ปี มีแพทย์ที่ชำนาญพร้อมให้คำปรึกษา และพร้อมบริการดูแลหลังศัลยกรรมอย่างทั่วถึง
ใช้อุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย ได้มาตรฐาน รวมทั้งใส่ใจในเรื่องของวัสดุและอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ในการเสริมจมูก เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Waleerat Clinic มีการใช้เทคนิคใหม่ 4D Nose ซึ่งเป็นเทคนิคที่ออกแบบโดยอาจารย์แพทย์ที่มีความชำนาญ เหลาซิลิโคนให้มีรูปทรงที่เหมาะสมแบบ Case by Case เพื่อสร้างความมั่นใจในกับให้กับคนไข้
FAQ
คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างทำผ่าตัด เพราะมีการใช้ยาชาหรือยานอนหลับ แต่หลังการผ่าตัดกลับไปพักฟื้น อาจมีอาการบวม ช้ำ หรือระบมบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ อาการเหล่านั้นจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
ใช้เวลาพักฟื้น 5 – 7 วัน และต้องเข้ามาพบแพทย์ตามนัด เพื่อติดตามผล และตัดไหม หากรวมเวลาที่ต้องใช้พักฟื้นให้รอยช้ำต่างๆ จางหายไป มีระยะเวลาประมาณ 7 – 14 วัน ซึ่งระยะเวลาที่ใช้พักฟื้นนั้นขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละเคส
หลังเสริมจมูก แผลจะค่อยๆ หายบวมและเข้าที่ประมาณเดือนที่ 3 เป็นต้นไป โดยใน 1 สัปดาห์แรกจะหายบวมประมาณ 60% เมื่อครบ 1 เดือนจะหายบวม 80% สุดท้ายอาการบวมจะหายไปและเข้าที่ 90 – 100% ใน 3 – 6 เดือน
สามารถเสริมจมูกได้ แต่ต้องทำการขูดฟิลเลอร์เดิมออกมาก่อน เพื่อให้ซิลิโคนที่จะใส่เข้าไปมีการยึดเกาะที่ดีขึ้น
ซิลิโคนจมูกนั้นสามารถอยู่กับคนไข้ได้ตลอดอายุขัยของตัวคนไข้เอง ยกเว้นกรณีที่ซิลิโคนของคนไข้เกิดปัญหา เช่น เบี้ยว เอียง หรือซิลิโคนหดรั้ง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
โดยทั่วไปสามารถทำจมูกได้ ยกเว้นกรณีคนไข้อยู่ในช่วงการดึงฟัน หรือกำลังวางแผนจัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร อาจจะต้องปรึกษาทันตแพทย์ หรือจบกระบวนการการจัดฟันก่อน จึงค่อยทำการศัลยกรรมจมูก
การทำจมูก 4D Nose พร้อมตัดปีกจมูก สามารถทำพร้อมกันได้ ในคนไข้บางรายที่มีปีกจมูกกว้างมาก จมูกบาน หรือจมูกชมพู่
มีอีกวิธีหนึ่งที่เป็นการเสริมจมูกไม่ใช้ซิลิโคน คือการร้อยไหมจมูก โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด แต่ได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับการเสริมจมูกแบบใช้ซิลิโคน
สามารถทำได้ เพียงแต่มีข้อจำกัด และมีความเสี่ยงบางอย่าง เช่น มีโอกาสจมูกทะลุมากกว่าคนทั่วไป หรือทำให้จมูกโด่งหรือเชิดขึ้นได้อย่างจำกัด จึงควรต้องปรึกษากับศัลยแพทย์เพื่อทำการวิเคราะห์โครงสร้างจมูกก่อนตัดสินใจทำ