ปากกาลดน้ำหนัก Weight-Loss Pen นวัตกรรมในการดูแลตัวเอง

ตามทฤษฎีแล้ว หากอยากประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก ก็ต้องควบคุมการรับประทานอาหาร โดยงดอาหารประเภทแป้ง อาหารที่มีรสหวาน ของมันของทอด นอกจากนั้นยังต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและพักผ่อนให้เพียงพออีกด้วย เหมือนจะฟังดูง่ายๆ แต่แน่นอนว่าการลดน้ำหนักจริงๆ แล้วก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับหลายคน

 

ด้วยเหตุนี้ตัวช่วยอย่างปากกาลดน้ำหนัก หรือ Weight-Loss Pen จึงนับว่าเป็นอีกตัวเลือกที่จะทำให้การควบคุมน้ำหนักเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น

ปากกาลดน้ำหนักคืออะไร

ปากกาลดน้ำหนักคืออะไร? รู้จักนวัตกรรมในการดูแลรูปร่าง

Weight-Loss Pen หรือ ปากกาลดน้ำหนัก คือ ยาลดน้ำหนักในรูปแบบปากกาฉีด ซึ่งเป็นนวัตกรรมจากประเทศเดนมาร์ก อาศัยการทำงานตัวยาที่มีชื่อว่า Liraglutide (ลิรากลูไทด์) เปบไทด์โปรตีนที่มีลักษณะคล้ายกับฮอร์โมน GLP-1 หรือ Glucagon like peptide -1 กว่า 97% โดยฮอร์โมนชนิดนี้จะอยู่ในระบบทางเดินอาหาร เป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความรู้สึกอิ่ม เมื่อมีอาหารเข้าสู่ร่างกายในระดับที่เพียงพอต่อความต้องการแล้ว ฮอร์โมนตัวนี้จะออกฤทธิ์ไปที่สมองเพื่อออกคำสั่งให้ร่างกายอิ่ม ดังนั้นเมื่อฉีดยา Liraglutide จากปากกาลดน้ำหนักเข้าสู่ร่างกาย สารชนิดนี้ก็จะทำหน้าที่ส่งสัญญาณไปที่สมอง ทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่ม อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้กระเพาะอาหารบีบตัวลดลง อาหารที่รับประทานเข้าไปอยู่ได้นานขึ้น จึงรับประทานอาหารต่อมื้อน้อยลง ส่งผลให้น้ำหนักตัวลดลงในที่สุด

นอกจากนั้น ด้วยขนาดที่กะทัดรัด พกพาง่าย และฉีดได้ด้วยตัวเองไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่คลินิกทุกวัน ทำให้ปัจจุบันปากกาลดน้ำหนักกลายเป็นไอเทมลับที่คนอยากลดน้ำหนักเลือกใช้ควบคู่ไปกับควบคุมอาหาร

ปากกาลดน้ำหนักคืออะไร

ประเภทของปากกาลดน้ำหนัก มีกี่แบบ? เลือกแบบไหนดี?

หากพิจารณาจากภายนอก ปากกานี้จะมีลักษณะเหมือนกันทุกแบบคือ คล้ายกับปากกา ด้านในมีเข็มขนาดเล็กสำหรับฉีดที่ผิวหนังเพื่อปล่อยยาเข้าสู่ร่างกาย แต่ถ้าแบ่งตามการใช้งานจะแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ ปากกาลดน้ำหนักแบบฉีดทุกวันและปากกาลดน้ำหนักฉีดอาทิตย์ละครั้ง โดยแนะนำว่าให้เลือกใช้แบบฉีดทุกวัน เพราะจะใช้ความเข้มข้นของยาน้อยกว่าแบบฉีดอาทิตย์ละครั้ง จึงทำให้มีโอกาสผลข้างเคียงต่างๆ น้อยกว่า

ปากกาลดน้ำหนักเหมาะกับใครบ้าง?

แน่นอนว่าการลดน้ำหนักหรือใช้ตัวเลือกในการลดน้ำหนักแต่ละแบบย่อมมีความแตกต่างกัน ใครที่ยังไม่มั่นใจว่าปากกาลดน้ำหนักจะเหมาะกับตัวเองไหม มาดูกันในหัวข้อนี้ได้เลยว่าปากกาตัวนี้เหมาะและไม่เหมาะกับใครบ้าง
Pico Laser สามารถรักษาอะไรได้บ้าง

เหมาะ

ตามค่ามาตรฐานคนเอเชียแล้ว ถ้าค่า BMI หรือค่าดัชนีมวลกาย Body Mass Index เท่ากับหรือเกินกว่า 30 ตามมาตรฐาน แปลว่าอยู่ในภาวะอ้วนระดับ 3 ซึ่งเป็นระยะที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ จึงจำเป็นต้องลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วน ซึ่งงานวิจัยเรื่อง A Randomized, Controlled Trial of 3.0 mg of Liraglutide in Weight Management ของ Xavier และคณะในปี 2015 ชี้ว่าปากกาลดน้ำหนักสามารถลดน้ำหนักได้อย่างน้อย 5% รอบเอวลดลง 8.2 เซนติเมตร ในเวลา 2 เดือน จึงนับเป็นอีกทางเลือกที่สามารถลองใช้ได้

ถึงแม้ว่าปากกาลดน้ำหนักจะออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์ในการลดน้ำหนัก จนในบางครั้งถูกเรียกว่าปากกาลด ความอ้วน แต่ก็สามารถใช้กับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือเป็นโรคที่แพทย์แนะนำให้ควบคุมการรับประทานอาหารหรือลดน้ำหนักอย่างโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับได้เช่นกัน เนื่องจากเดิมทีนั้น ปากกาลดน้ำหนักถูกพัฒนาให้เป็นยาสำหรับใช้ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลสะสม โดยพบว่าสามารถลดการสะสมน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานที่มีภาวะอ้วนร่วมด้วยได้อย่างน้อย 10%

ในความจริงแล้ววิธีลดน้ำหนักมีหลายวิธีการ ตั้งแต่การควบคุมไปจนถึงการผ่าตัด แต่การในแง่ของความปลอดภัย ยา Liraglutide ในปากกาลดน้ำหนักได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาให้เป็นยาชนิดฉีดเข้าใต้ผิวหนังที่สามารถใช้เป็นยาลดน้ำหนักได้

ผู้ที่ติดนิสัยการกินรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการลดน้ำหนัก เช่น กินจุกจิก กินเยอะ หิวง่ายและหิวบ่อย สามารถใช้ปากกาลดน้ำหนักเป็นตัวช่วยในการควบคุมการรับประทานให้ง่ายขึ้นได้ ด้วยคุณสมบัติของยา Liraglutide นั้นจะช่วยให้รู้สึกอิ่มท้อง จึงลดความรู้สึกหิวบ่อยๆ และอยากทานจุกจิกนอกมื้ออาหารลงได้บ้างนั่นเอง

ไม่เหมาะ

ถ้ามีประวัติแพ้ยา Liraglutide หรือส่วนประกอบของยานี้มาก่อน แนะนำว่าไม่ควรใช้ เพราะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงได้

ผู้เป็นโรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ โรคเกี่ยวกับต่อมไร้ต่อ ภาวะหัวใจล้มเหลวอย่างรุนแรง

อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมารดาและทารกในครรภ์ได้

ผู้ที่อยู่ในช่วงอายุน้อยกว่า 18 ปี และมากกว่า 75 ปี ไม่แนะนำ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลในการศึกษาด้านความปลอดภัยที่เพียงพอ จึงไม่แนะนำให้คนกลุ่มนี้ใช้ปากกาลดน้ำหนัก เพราะอาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือมีผลต่อสุขภาพในระยะยาว อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

ผู้ที่มีปัญหาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ตับ ตับอ่อนอักเสบ ถุงน้ำดีอักเสบ นิ่วในถึงน้ำดี ภาวะไต ภาวะไตที่อยู่ในระยะต้องฟอกไต รวมถึงภาวะสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ

ควรปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ ห้ามใช้ปากกาลดน้ำหนัก โดยพลการเด็ดขาด เพราะในการรักษาโรคเหล่านี้โดยปกติ แพทย์ต้องปรับยาเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย หากมีการใช้ยาเพิ่มเติมจึงต้องได้รับคำแนะนำก่อนทุกครั้ง

มีข้อบ่งชี้อย่างชัดเจนว่ายา Liraglutide ไม่ควรใช้ร่วมกับยารักษาบ้างชนิด อย่างยา Glimepiride (ไกลเมพิไรด์) ยา Glibenclamide (ไกลเบนคลาไมด์) หรือ ยา Warfarin (วอร์ฟาริน) เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานได้

ปรึกษาแพทย์ เรื่องร้อยไหม ที่คลินิก Waleerat พร้อมให้คำปรึกษาแบบครบครัน

ปากกาลดน้ำหนักมีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร?

นอกจากคำแนะนำและความเหมาะสมที่นำมาฝากกันในหัวข้อข้างต้นแล้ว หลายๆ คนก็อาจจะสงสัยด้วยว่าแล้วการใช้ปากกาลดน้ำหนักนั้นจะมีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง ซึ่งการรู้ข้อดีและข้อเสียก็จะช่วยให้ตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ไปดูกันทีละหัวข้อเลยดีกว่า
ข้อดี-ข้อเสีย ปากกาลดน้ำหนัก

ข้อดี

ข้อดีของการใช้ปากกาลดน้ำหนัก คือ ช่วยให้การลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น สามารถทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย มีความปลอดภัยเนื่องจากยาที่ใช้มีความคล้ายคลึงกับเอนไซม์ที่อยู่ในร่างกาย อีกทั้งเมื่อหยุดใช้ยังไม่มีปัญหาโยโย่เอฟเฟกต์ตามมาภายหลังให้ปวดหัว

นอกจากนั้นยังใช้งานง่าย สามารถฉีดได้ด้วยตัวเอง ไม่เพียงเท่านั้น ปากกาลดน้ําหนักราคาถูกกว่าการทำศัลยกรรมเพื่อลดความอ้วนด้วย

ข้อเสีย

เนื่องจากยาในปากกาลดน้ำหนักนั้น เกี่ยวข้องกับระบบการทำงานของทางเดินอาหารและสารสื่อสมอง ในบางรายหลังจากใช้ปากกาลดน้ำหนัก จะมีผลข้างเคียง คือ อาจมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ พะอืดพะอม อาเจียน ปวดท้อง อาหารไม่ย่อย กรดไหลย้อน ท้องผูก ท้องเดิน

แต่อาการเหล่านี้มักเป็นแค่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่สัปดาห์ อีกทั้งอาการและระยะเวลาขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผู้ใช้งานแต่ละคน

หากอยากซื้อปากกาลดน้ำหนักมาใช้เองได้ไหม?

ถ้าลองค้นหาว่าปากกาลดน้ำหนักซื้อที่ไหนดี หรือปากกาลดน้ำหนักดีไหม จะเห็นได้ว่านอกจากจะมีข้อมูลให้ศึกษาหาความรู้ก่อนตัดสินใจแล้ว ยังมีเว็บไซต์เสนอขายให้เลือกมากมาย แต่เนื่องจากปากกาลดน้ำหนักถูกจัดเป็นอยู่ในกลุ่มยาควบคุมพิเศษ หากต้องการใช้งานควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่แนะนำให้ซื้อเองอย่างเด็ดขาด

การใช้งานภายใต้การแนะนำของแพทย์นั้น นอกจากจะได้รับการตรวจสอบร่างกายอย่างละเอียดและได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง ทำให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในเรื่องผลข้างเคียงแล้ว ยังไม่ต้องเสี่ยงกับปากกาลดน้ำหนักของปลอมที่กลุ่มมิจฉาชีพมักอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง แต่สุดท้ายกลายเป็นการหลอกขายผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานให้กับคนอยากลดน้ำหนักอีกด้วย

ขั้นตอนวิธีใช้ปากกาลดน้ำหนัก

ขั้นตอนการใช้ปากกาลดน้ำหนัก
  1. ตรวจสอบความพร้อมของปากกาลดน้ำหนัก ดูคุณภาพของยา โดยจะต้องเป็นน้ำสีใสไม่ขุ่น ไม่มีตะกอน เมื่อตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าเป็นยาที่มีคุณภาพ ให้ใส่ชิ้นส่วนของเข็มที่หัวปากกา
  2. ทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีดด้วยแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะฉีดปากกาลดน้ำหนักบริเวณหน้าท้อง ต้นขา หรือต้นแขนที่มีไขมันเยอะ
  3. จิ้มปากกาลดน้ำหนักไปที่เนื้อบริเวณที่ต้องการฉีด กดปากกาค้างไว้จนปริมาณยาที่กำหนดเข้าสู่ผิว จึงค่อยดึงออก
  4. ทำความสะอาดบริเวณที่ฉีดและถอดเข็มออก จากนั้นให้นำไปเก็บรักษาอย่างถูกวิธี

ปากกาลดน้ำหนักของ Waleerat Clinic
ดียังไง?

สูตรปากกาลดน้ำหนักของทางคลินิกนั้นมีการออกแบบสูตรที่ปลอดภัย และมั่นใจได้ว่าอยู่ในการควบคุมดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์

ปากกาลดน้ำหนักราคาเท่าไหร่?

ปากกาลดน้ำหนักราคา-2
ราคาปากกาลดน้ำหนัก

ราคาปกติ

ราคาปกติ 9,999 บาท/แท่ง

ระหว่างการใช้ปากกาลดน้ำหนัก ควรดูแลตนเองอย่างไรให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี

ดูแลตนเองอย่างไร
  • ควรใช้ตามปริมาณที่แพทย์กำหนด ไม่ควรปรับปริมาณยาเอง เนื่องจากแพทย์จะมีการประเมินยาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล
  • ไม่ควรใช้ร่วมกับผู้อื่น เพื่อป้องกันการเป็นโรคติดต่อ โดยแม้จะเปลี่ยนหัวเข็มก็ไม่ควรใช้ร่วมกัน
  • แม้ว่าการใช้ปากกาลดน้ำหนักแบบฉีดทุกวันจะไม่ได้กำหนดว่าต้องฉีดตอนไหน แต่แนะนำว่าให้ฉีดหลังจากรับประทานอาหารเช้า เพื่อลดความหิวของมื้อถัดไปได้เลย อีกทั้งยังควรฉีดในเวลาเดียวกันทุกวันด้วย
  • การฉีดปากกาลดน้ำหนักในบริเวณเดิม ๆ จะทำให้เกิดรอยช้ำ สามารถเปลี่ยนไปฉีดบริเวณอื่นได้ แต่ควรเป็นบริเวณที่มีไขมันเยอะเช่นเดียวกัน
  • แม้ว่ามีงานวิจัยที่ยืนยันว่าใช้ปากกาแล้วจะผอมลงได้ แต่ควรควบคุมอาหารร่วมด้วยเพื่อประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก แนะนำให้เลือกรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ลดอาหารที่มีไขมัน คาร์โบไฮเดรต โดยเฉพาะอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เพราะอาจส่งผลให้มีอาการคลื่นไส้หลังจากการใช้ได้
  • เมื่อเปิดใช้งานแล้วควรเก็บรักษาไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียสและเขียนวันที่เปิดไว้ให้ ชัดเจน เพราะยาในปากกาลดน้ำหนักมีอายุการใช้งานเพียง 1 เดือนเท่านั้น ส่วนที่ยังไม่ได้เปิดใช้งานควรเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา ตั้งอุณหภูมิที่ 2 – 8 องศาเซลเซียส และห้ามแช่ในช่องแช่แข็งเด็ดขาด
ดูแลตนเองอย่างไร

FAQ

ปากกาลดน้ำหนักไม่มีอันตรายหากใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากยา Liraglutide เป็นยาที่ได้รับการรับรอง แต่อาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อยขึ้นอยู่บุคคล ทั้งนี้ เน้นย้ำอีกครั้งว่าจะปลอดภัยก็ต่อเมื่ออยู่ในการดูแลของแพทย์ ไม่ควรซื้อมาใช้เองอย่างเด็ดขาด
จากงานวิจัยพบว่าปากกาลดน้ำหนักสามารถลดน้ำหนักได้อย่างน้อย 5% ในระยะเวลา 2 เดือน แต่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการออกกำลังกายของผู้ใช้ด้วย
มีคำแนะนำว่าสามารถใช้ปากกาลดน้ำหนักติดต่อกันประมาณ 3 – 4 เดือน แต่ทั้งนี้ ควรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
Copyright © 2022 Waleerat Clinic