- ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ คืออะไร
- แก้มตอบเกิดได้จากสาเหตุอะไรบ้าง
- ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเหมาะกับใครบ้าง
- ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี
- ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบราคาเท่าไร ใช้ฟิลเลอร์กี่ซีซี
- ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ อันตรายหรือไม่
- ระหว่างฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบกับฉีดไขมันตัวเอง เลือกแบบไหนดี
- ข้อแนะนำก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
- ข้อแนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เติมความหน้าเด็ก แก้ปัญหาโหนกแก้มเด่น
เมื่อคนเราอายุเพิ่มขึ้น ก็จะมีปัญหาใบหน้าตามมาให้กังวลหลายอย่าง เช่น หน้าโทรม แก้มตอบ
แก้มห้อย ร่องแก้มลึก ใบหน้ามีริ้วรอย ส่งผลให้ใบหน้าดูมีอายุ เนื่องจากอายุเพิ่มขึ้นฮอร์โมนในร่างกายจะเปลี่ยนแปลง ทำให้ผิวหน้าขาดคอลลาเจน หรือผิวขาดความยืดหยุ่น ซึ่งเป็นสาเหตุให้ใบหน้ามีปัญหาดังกล่าว
แต่ในปัจจุบันมีวิธีที่ทำให้ใบหน้ากลับมาดูสดใส คือการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เพราะฟิลเลอร์แก้มตอบช่วยเพิ่มไขมันบริเวณแก้มที่มีน้อยหรือยุบให้กลับมาดูตื้นขึ้น ลดปัญหาโหนกแก้ม ลดปัญหาใบหน้าที่มีริ้วร้อยและช่วยให้ผิวบนใบหน้าเรียบเนียน
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ คืออะไร
แก้มตอบ คือ ใบหน้าที่มีแก้มน้อย ใบหน้าดูไม่อวบอิ่ม แก้มดูเป็ร่องลึกหรือยุบเป็นช่องแอ่งเล็กๆ ไขมันบริเวณแก้มยุบตัวจนกลายเป็นเหตุใบหน้าดูซูบ ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ โทรม อิดโรย
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ คือ การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเข้าไปช่วยเติมเต็มใบหน้าที่ดูซูบ ให้กลับมาดูอวบอิ่ม หรือเป็นการฉีดเข้าไปช่วยเติมไขมันบนใบหน้า เพื่อให้แก้มดูมีมากขึ้น ซึ่งช่วยลดใบหน้าที่เคยยุบ ให้กลับมาดูตื้น
วิธีการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ จะฉีดบนบริเวณใบหน้า โดยการฉีดเติมสารฟิลเลอร์ไปยังแก้มด้านซ้าย แก้มด้านขวาที่มีร่องลึกหรือมีเนื้อแก้มน้อย อีกทั้งฉีดไปยังบริเวณโหนกแก้ม เพื่อให้ใบหน้าได้สัดส่วนและทดแทนไขมันในบริเวณแก้ม ซึ่งมีส่วนช่วยให้ใบหน้ากลับมาดูดี อ่อนกว่าวัย หน้าไม่ซูบ แก้ปัญหาริ้วรอย โหนกแก้มสูง และร่องแก้มลึก
แก้มตอบเกิดได้จากสาเหตุอะไรบ้าง
พันธุกรรม จากปัญหาโครงสร้างตั้งแต่เกิด
พันธุกรรมนับว่าเป็นส่วนที่ทำให้แก้มตอบหรือเกิดมาจากโครงสร้างใบหน้าจากพันธุกรรมที่มีลักษณะแก้มตอบ ถ้าปู่ ย่า ตายายหรือพ่อแม่ มีแก้มตอบก็ย่อมส่งผลให้รุ่นลูก หลาน มีแก้มตอบได้ โดยการถ่ายทอดกรรมพันธุ์ไปยัง DNA จากรุ่นสู่รุ่นโดยอัตโนมัติ
อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่อมีอายุที่เพิ่มขึ้น ฮอร์โมนภายในร่างกายย่อมเปลี่ยนแปลงไป ทำให้มีการผลิตคอลลาเจนลดน้อยลง ส่งผลให้เซลล์ผิวเกิดการยุบตัว ไม่เต่งตึง ไขมันในบริเวณผิวหน้าค่อยๆเลือนหายไป ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้แก้มตอบ ใบหน้าไม่อวบอิ่มเหมือนเดิม หรือใบหน้าซูบลงและกลายเป็นแอ่ง จนเห็นได้ชัด รวมถึงอายุเป็นตัวแปรสำคัญในการทำให้แก้มตอบ ใบหน้าดูไม่สดใสดั่งวัยเยาว์
การลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนักที่ผิดวิธีโดยวิธีอื่นๆ หรือการที่มี น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น ส่งผลให้ไขมันบริเวณต่างๆ ลดลงไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันในบริเวณแก้ม ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม แก้มตอบ ใบหน้าอิดโรย ดูไม่มีชีวิตชีวา
การจัดฟัน
การจัดฟันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แก้มตอบได้ เนื่องจากการจัดฟันจะทำให้โครงหน้ามีการเปลี่ยนแปลง โดยผู้ที่เข้ารับการจัดฟันหรืออยู่ระหว่างในช่วงจัดฟัน จะไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ปกติ หรือมีการเคี้ยวอาหารน้อยลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าใช้งานได้ไม่เต็มที่ และใบหน้ามีขนาดเล็กลง เมื่อมีการเคี้ยวอาหารที่ไม่เต็มที่ ย่อมทำให้เกิดปัญหาแก้มลีบและแก้มตอบตามมารวมทั้งมีโหนกแก้มที่ชัดขึ้น
หากใครมีแก้มตอบ ซึ่งเกิดมาจากปัญหาหลักๆ 4 อย่างเหล่านี้ ก็สามารถแก้ไขปัญหา โดยการเติมฟิลเลอร์แก้มตอบเพื่อให้ใบหน้ากลับมาดูสดใสและเรียบเนียนอีกครั้ง
การฉีด Botulinum toxin หรือ BOTOX บริเวณกราม
การฉีด Botulinum toxin หรือ Botox บริเวณกราม ที่เป็นสาเหตุทำให้แก้มตอบ เนื่องจาก
- แพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญและไม่มีประสบการณ์ที่เพียงพอ
- ฉีดผิดตำแหน่งบนใบหน้า
- แพทย์ไม่มีความระมัดระวัง
- มีกรามบนใบหน้าที่ใหญ่มากจนเกินไป ทำให้ฉีดโบท็อกซ์ไปแล้ว มีประสิทธิภาพในการทำงานไม่เพียงพอ
- ฉีดโบท็อกซ์กับหมอเถื่อน ทำให้ได้
โบท็อกซ์ที่ไม่มีฐานและไม่มี อย.รับรอง ซึ่งมีผลทำให้แก้มตอบ
- การฉีดโบท็อกซ์ซึ่งมีส่วนผสมที่เป็นอันตราย ทำให้ผู้ที่เข้ารับการฉีดมีอาการแพ้ อักเสบ มีผลข้างเคียงทำให้แก้มตอบ
- การใช้โบท็อกซ์ปลอม ทำให้มีการกระจายตัวที่ไม่เต็มที่
ในการฉีดโบท็อกซ์ จึงจำเป็นต้องมีความระมัดระวัง และต้องศึกษาข้อมูลให้มากพอ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาแก้มตอบ
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเหมาะกับใครบ้าง
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหรือมีความกังวลใจบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็สามารถเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบได้ทั้งนั้น
โดยผู้ที่มีปัญหาเหล่านี้ ควรเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์
- ผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบจากการลดน้ำหนักที่รวดเร็วจนเกินไป ส่งผลให้ใบหน้าดูซูบ
- ผู้ที่มีแก้มตอบและริ้วรอยจากการที่มีอายุเพิ่มขึ้น
- ผู้ที่มีแก้มตอบ ทางพันธุกรรม
- ผู้ที่มีแก้มตอบจากการจัดฟัน
- ผู้ที่ต้องการให้ใบหน้ากลับมาอวบอิ่ม เรียบเนียน
- ผู้ที่ต้องการเสริมความมั่นใจบนใบหน้า
ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบมีส่วนช่วยในการลดปัญหาบนใบหน้าและฟื้นฟูเซลล์ผิว
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี
ในการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ฟิลเลอร์มีอยู่หลายยี่ห้อให้เลือกตามท้องตลาด แต่ต้องเลือกที่เหมาะสมกับตัวเอง และให้ได้ผลลัพธ์มากที่สุดบนใบหน้า
โดยที่แพทย์ส่วนใหญ่เลือกใช้ฟิลเลอร์
เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาใบหน้าที่มีแก้มตอบของผู้เข้ารับบริการหรือคนไข้ ได้แก่
ฟิลเลอร์ Restylane Volyme
ฟิลเลอร์ Restylane Volyme เป็นฟิลเลอร์ช่วยเรื่องแก้มตอบที่มีความปลอดภัยสูงและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากสลายได้เองตามธรรมชาติ และแพทย์จากทั่วโลกให้การยอมรับ โดยเป็นฟิลเลอร์ที่มาจากประเทศสวีเดน
ซึ่งมีจุดเด่นคือ
- เป็นฟิลเลอร์ที่มีผลค้างเคียงน้อย โอกาสในการแพ้ฟิลเลอร์แทบไม่มี
- ช่วยเติมเต็มใบหน้า แก้ปัญหาร่องแก้มลึก แก้มตอบ ให้กระชับและตื้นขึ้น
- มีอย.ที่ถูกต้อง และได้รับการรับรองมาตรฐานจากหลายประเทศในโซนยุโรป
- เป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชาทำให้ไม่รู้สึกเจ็บ
เหมาะสำหรับการฉีดแก้มตอบ เพราะว่าฟิลเลอร์ชนิดนี้
- ช่วยเติมเต็มใบหน้าที่เคยดูซูบให้กลับมาดูอิ่มฟู ใบหน้าไม่เป็นร่องลึกเหมือนเก่า
- ช่วยปรับผิวบนใบหน้าให้ดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์
- เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติในการช่วยอุ้มน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และมีผลลัพธ์ที่สามารถอยู่ได้นาน
- หลังการฉีดทำให้ใบหน้าดูสวยสดใส มีความมั่นใจ
ฟิลเลอร์ชนิดนี้มีระยะเวลาอยู่ได้นานถึง 18 เดือน มีราคา 13,000 บาท ต่อ 1 cc
ฟิลเลอร์ Juvederm Volift
ฟิลเลอร์ Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์แก้มตอบที่มีมาตรฐานด้านประสิทธิภาพสูงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเป็นฟิลเลอร์ที่มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา
ซึ่งมีจุดเด่นคือ
- เป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองอย.จาก US FDA และ อย.ในประเทศไทย
- ไม่รู้สึกเจ็บในขณะที่ฉีด เนื่องจากมีส่วนผสมของยาชาอยู่ในฟิลเลอร์
- เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนิ่ม และมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้ทนต่อการขยับใบหน้า
- เป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพสูง
- ช่วยยกกระชับใบหน้า ฟิลเลอร์ไม่จับกันเป็นก้อน
เหมาะสำหรับการฉีดแก้มตอบ เพราะว่าฟิลเลอร์ชนิดนี้
- มีสารในฟิลเลอร์ Juvederm ที่ช่วยเติมเต็มผิวหน้าที่มีร่องลึก แก้มบุ๋ม แก้มตอบ ให้กลับมาดูอิ่มขึ้นและฟูขึ้น
- ฉีดแล้วช่วยให้ใบหน้าดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ
- มีคุณสมบัติที่ช่วยอุ้มน้ำได้ดีในเซลล์ผิว ทำให้แก้มไม่ตอบอีกต่อไป
- จากใบหน้าที่มีแก้มตอบ กลายเป็นใบหน้าที่มีความเรียบเนียน และเห็นผลลัพธ์หลังการฉีดทันที
- มีโมเลกุลในการช่วยปรับรูปหน้า
ฟิลเลอร์ชนิดนี้มีระยะเวลาอยู่ได้นานถึง 12 เดือน มีราคา 14,000 บาท ต่อ 1 cc
ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma
ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma เป็นฟิลเลอร์แก้มตอบที่มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพสูงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการฉีด อีกทั้งเป็นสารฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัย สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติอย่างไร้กังวล โดยเป็นฟิลเลอร์ที่มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา
ซึ่งมีจุดเด่นคือ
- ได้ผ่านการรับรอง อย.จากอเมริกา และ อย.จากไทย
- หลังการฉีดไม่มีการบวม ช้ำ บนใบหน้า และช่วยยกกระชับใบหน้า
- มีความปลอดภัยสูง
- ช่วยแก้ไขจุดบกพร่องบนใบหน้า เห็นผลเร็วหลังการฉีด
เหมาะสำหรับการฉีดแก้มตอบ เพราะว่าฟิลเลอร์ชนิดนี้
- ช่วยปรับรูปหน้า แก้มตอบให้เลือนหายไป
- ปรับผิวหน้าที่เคยซูบผอม ให้ดูมีแก้มเต็มอิ่มและเรียบเนียน
- ปรับรูปหน้าแก้มตอบ ให้มีความคมชัดและเต่งตึง
- ช่วยลดร่องแก้มตอบ ให้ดูตื้นขึ้น
- ช่วยสร้างความมั่นใจ เสริมบุคลิกภาพให้ดูดี
- ช่วยให้ใบหน้าดูเด็กลง
ฟิลเลอร์ชนิดนี้มีระยะเวลาอยู่ได้นานถึง 24 เดือน มีราคา 14,000 บาท ต่อ 1 cc
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบราคาเท่าไร ใช้ฟิลเลอร์กี่ซีซี
ในการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ มีฟิลเลอร์ที่แพทย์นิยมใช้ คือ
- ฟิลเลอร์ Juvederm Volift (จากอเมริกา) ราคาประมาณ 14,000 บาท ต่อ1 ซีซี หรือ 14,000/ 1 cc
- ฟิลเลอร์ Restylane Volyme ( จากสวีเดน) ราคาประมาณ 13,000 บาท ต่อ 1 ซีซี หรือ 13,000 /1 cc
โดยแพทย์จะใช้ฟิลเลอร์ในการฉีดข้างละไม่เกิน 1-2 cc ดังนั้น ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ เราควรปรึกษาแพทย์ เพื่อที่แพทย์จะสามารถเลือกชนิดของฟิลเลอร์ได้เหมาะสมต่อใบหน้าของผู้เข้ารับบริการ เนื่องจากใบหน้าของแต่ละคนมีความแตกต่างกันและใช้ปริมาณฟิลเลอร์ไม่เท่ากัน
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ อันตรายหรือไม่
หากทำการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบกับแพทย์ที่มีความชำนาญการ ก็ย่อมไม่มีปัญหาอื่นๆ ตามมาหรือไม่ต้องกังวลใจใดๆ ไม่สามารถเกิดอันตราย ต่อผู้ที่เข้ารับการฉีด และแน่นอนอยู่แล้วว่า
ถ้าฉีดฟิลเลอร์ที่มีมาตรฐาน มีอย.รับรอง จะมีความปลอดภัยสูงและมีผลลัพธ์ที่ดี
หากในกรณีที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ได้ยาก จะต้องพึ่งประสบการณ์ของแพทย์ และมีเทคนิคการทำที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ดังนี้
- แพทย์จะตรวจและประเมินโครงสร้างใบหน้าของผู้เข้ารับบริการอย่างละเอียด เพื่อความถูกต้อง แม่นยำ ก่อนการฉีด
- แพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ที่มีประสบการณ์ จะทราบถึงตำแหน่งการฉีด ว่าควรฉีดบริเวณไหนที่สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ไวที่สุด
- แพทย์จะทราบถึงความลึกตื้นของใบหน้าเพื่อทำการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบได้อย่างตรงจุด
- แพทย์จะมีความระมัดระวังในการฉีด
ฟิลเลอร์แก้มตอบเป็นอย่างมาก
ดังนั้นจะต้องเลือกฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบจากแพทย์ที่มีประสบการณ์โดยตรง เพื่อความปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์ไวที่สุด อีกทั้งควรศึกษาข้อมูลก่อนทำการฉีด
อาการปกติที่พบได้หลังฉีดฟิลเลอร์
เป็นเรื่องปกติที่จะมีอาการตามมาหลังจากฉีด เช่น มีอาการเจ็บ บวม แสบ คัน มีรอยแดงช้ำ แต่อาการนั้นจะดีขึ้นเอง
หลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
- มีอาการแพ้ฟิลเลอร์ เช่น ขึ้นผื่นคันบนใบหน้า หรือมีตุ่มแดงๆ
- มีอาการปวดและอักเสบอย่างรุนแรง
- มีก้อนแข็งๆบนบริเวณแก้ม
- หน้ามืด หายใจไม่สะดวก
- กล้ามเนื้อบนใบหน้าอ่อนแรง ไม่สามารถขยับได้
- มีอาการปวดตา ตาบวม มองเห็นสิ่งต่างๆไม่ชัดเจน
- มีอาการที่บวมใหญ่มากบนบริเวณใบหน้า จนมองเห็นรอยบวมได้อย่างชัดเจน
ถ้ามีอาการดังกล่าวก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพื่อจะได้ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายและสามารถรักษาให้หายได้ในระยะเริ่มต้น
ระหว่างฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบกับฉีดไขมันตัวเอง เลือกแบบไหนดี
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบกับฉีดไขมันตัวเอง มีลักษณะความแตกต่างกันดังนี้
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบเป็นการฉีดเพื่อช่วยยกกระชับใบหน้า แก้ปัญหาแก้มที่มีร่องลึก แก้มบุ๋ม ปรับรูปหน้าให้มีสัดส่วนที่เหมาะสม โดยการเติมเต็มใบหน้าจากสารสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นมา หรือสารไฮยาลูโรนิคแอซิด เพื่อให้มีความใกล้เคียงกับเซลล์ที่ร่างกายสร้างเอง
ข้อดีของการฟิลเลอร์แก้มตอบ
- การฉีดฟิลเลอร์ไม่มีรอยแผลเป็น เนื่องจากไม่ต้องทำการผ่าตัด
- ไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น
- มีความปลอดภัยสูงและได้รับการยอมรับเป็นอย่างมาก เนื่องจากมี อย.รับรอง
- การฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วหลังการฉีดทันทีและมีประสิทธิภาพสูง
- ฟิลเลอร์สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ และสามารถเติมการฉีดฟิลเลอร์ได้ตลอด
- การฉีดฟิลเลอร์นั้นมีความยืดหยุ่นต่อเซลล์ผิว
- รู้ระยะเวลาในการสลายตัวของฟิลเลอร์
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
- การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบมีราคาที่แพงกว่าการฉีดไขมันตัวเอง เพราะต้องมีการฉีดทั่วหน้า
- ฟิลเลอร์ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร
- หากฉีดฟิลเลอร์จากหมอเถื่อน จะส่งผลให้ใบหน้าพัง
- ถ้าฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้มีอาการแพ้ หรืออักเสบได้
- หากแพทย์ที่ฉีดไม่มีความชำนาญการ หรือฉีดผิดตำแหน่ง ย่อมทำให้มีผลข้างเคียงอื่นๆตามมาเยอะ
การฉีดไขมันตัวเอง เป็นการฉีดเพื่อแก้ปัญหาใบหน้าที่มีริ้วรอย ช่วยให้ผิวดูมีน้ำมีนวล ฉีดเข้าไปเพื่อเติมเต็มใบหน้าจากไขมันของตนเองโดยการปลูกถ่ายเซลล์ ทำให้ไม่มีการต่อต้านเมื่อทำการฉีด และไม่มีสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย
ข้อดีของการฉีดไขมันตัวเอง
- การฉีดไขมันตัวเองมีราคาที่ถูกกว่าการฉีดฟิลเลอร์ เพราะใช้ไขมันจากตัวเราเอง
- มีความปลอดภัย ไม่ใช้สารเคมี
- ไม่มีสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย
- ปรับใบหน้าให้ดูอ่อนวัย มีน้ำมีนวล
- ไม่มีการต่อต้าน เมื่อทำการฉีด เพราะเป็นเซลล์ของตัวเอง
- สามารถฉีดไขมันตัวเองได้ในปริมาณที่ต้องการ
- มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ ทำให้ผิวพรรณดูเต่งตึง
ข้อเสียของการฉีดไขมันตัวเอง
- ใช้เวลานานในการพักฟื้น
- ต้องใช้ระยะเวลาหรือรอนานในการปลูกถ่ายเซลล์ไขมัน
- ไม่สามารถรู้ได้ว่าไขมันจะสามารถอยู่ได้นานแค่ไหน
- การฉีดไขมันตัวเองไม่เหมาะสำหรับคนที่มีรูปร่างผอม เพราะจะต้องดูดไขมันออกจากร่างกาย
- มีการเจ็บตัวและมีรอยแผลเป็น
- มีโอกาสในการเกิดอาการแทรกซ้อนเยอะกว่าการฉีดฟิลเลอร์
- มีการแก้ไขปัญหาอาการแทรกซ้อนที่ยุ่งยาก เนื่องจากยังไม่มียาสลายไขมันที่ทำการรักษาได้ทันที
- อาจทำให้มีการอุดตันได้ หากฉีดเข้าไปในปริมาณที่มากจนเกินไป
เพราะฉะนั้นผู้ที่เข้ารับการบริการจะต้องเลือกชนิดของการฉีดที่มีความเหมาะสมต่อใบหน้าเนื่องจากปัญหาผิวหน้าหรือจุดบกพร่องของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อีกทั้งการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบและการฉีดไขมันตัวเอง มีคุณสมบัติและมีวิธีกระบวนการทำงานที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ข้อแนะนำก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ผู้เข้ารับบริการจะต้องมีการเตรียมตัวก่อนฉีด เพื่อป้องกันความผิดพลาดในการฉีด ซึ่งสิ่งที่ควรทำมีดังนี้
- ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นให้ดีเกี่ยวกับผลข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ หรือปรึกษาแพทย์
- งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ก่อนการฉีดเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
- งดรับประทานยาประเภทอาหารเสริม วิตามิน แอสไพริน
- งดการนวด บีบ บนใบหน้า 3 วันก่อนการฉีด
- หลีกเลี่ยงการโกนขน แว็กซ์ขนบนใบหน้าก่อนการฉีด 2-3 วัน
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังอย่างหนัก 1 สัปดาห์
- หากมีโรคประจำตัว ต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนการฉีด
หากปฏิบัติตามข้อแนะนำก่อนการฉีดฟิลเลอร์ ย่อมส่งผลให้การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ มีผลลัพธ์ที่ดีและไม่มีข้อผิดพลาด
ข้อแนะนำหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
ข้อแนะนำง่ายๆที่ควรปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
- หลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ควรงดเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ทุกชนิด เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า เช่น ไม่ควรนวดหน้า บีบ คลึง เกา แกะ ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- หากใบหน้าบวม ควรประคบน้ำเย็นเพื่อช่วยลดอาการบวม
- รับประทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์แนะนำ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หลังการ
ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
- งดรับประทานอาหาร หมักดอง รสจัดหรือเผ็ด
- งดการแว็กซ์ โกนขนบนบริเวณใบหน้า หรือขัดหน้า เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อไม่ให้ใบหน้ามีอาการอักเสบหลังการเติม
ฟิลเลอร์แก้มตอบ
- งดการโดนแสงแดดประมาณ 2 สัปดาห์เนื่องจากรังสียูวีอาจทำลายชั้นผิวหน้า
- งดการแต่งหน้าเป็นเวลาหลังการฉีดฟิลเลอร์ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการยิ้มกว้างหรือไม่ควรขยับหน้ามากเกินไป เพราะอาจจะทำให้
ฟิลเลอร์มีการเคลื่อนที่
- ควรดื่มน้ำในปริมาณมากๆ เพื่อที่น้ำจะเข้าไปช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นบนใบหน้า หลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักๆ
- หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์ ซาวน่า เนื่องจากสิ่งเหล่านี้มีความร้อนต่อผิว ส่งผลให้ฟิลเลอร์ไม่มีประสิทธิภาพในการลดปัญหาแก้มตอบ
- หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยสกินแคร์เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์หลังการฉีดฟิลเลอร์
- งดการล้างหน้าด้วยน้ำที่มีความร้อนหรือน้ำที่มีความเย็น 3 ชั่วโมงหลังการฉีด
ผู้ที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ไม่ควรมีความกังวลใจ หากหลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบผ่านไป2 ชั่วโมง ยังมีใบหน้าที่บวมอยู่ แต่หลังจากระยะเวลา 1 สัปดาห์แล้ว ใบหน้าจะกลับมาเป็นปกติ ดูดีและสวยขึ้นแน่นอน
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ คือการฉีดสารเข้าไปเต็มเติมใบหน้าที่มีร่องลึก เป็นหลุม มีแก้มบุ๋ม ให้กลับมาดูกระชับ เต่งตึง มีรูปหน้าที่อิ่มฟู และปรับรูปหน้าให้มีสัดส่วนที่พอดี
โดยการเติมฟิลเลอร์แก้มตอบเข้าไปในใบหน้า ช่วยแก้ไขปัญหาสำหรับผู้ที่มีแก้มตอบจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมหรือผู้ที่มีแก้มตอบจากการจัดฟัน เพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา มีใบหน้าที่น่ามอง ดูสวยเป็นธรรมชาติ อีกทั้งชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดมีคุณสมบัติ ระยะเวลาในการคงสภาพ การฉีดในตำแหน่งบนใบหน้า ปริมาณในการฉีดต่อซีซี และมีราคาที่แตกต่างกัน
ผู้ที่เข้ารับการบริการจากแพทย์จะต้องมีการศึกษาข้อมูล ทราบถึงข้อปฏิบัติก่อนการฉีดและตัดสินใจให้ดี ยกตัวอย่างเช่น เลือกฉีดฟิลเลอร์ประเภท Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์ที่อยู่ได้นานถึง 12 เดือน มีราคา อยู่ที่ 14,000 บาท ต่อ 1 cc ซึ่งช่วยฟื้นฟูใบหน้าและยังมีคุณสมบัติในการช่วยอุ้มน้ำได้ดีในเซลล์ผิว ทำให้แก้มไม่ตอบอีกต่อไป เมื่อเสร็จสิ้นจากการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบแล้วก็จะต้องทราบถึงข้อที่ไม่ควรปฏิบัติหลังการฉีด เป็นต้น ดังนั้นควรฉีดกับแพทย์ผู้ชำนาญการและมีความเชี่ยวชาญโดยตรง รวมถึงต้องเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี ในการที่ไม่มีปัญหาแก้มตอบมารบกวนใจ หรือหากใครที่กำลังคิดว่า
สร้างเส้นทางใหม่สู่ความงาม
ผ่านทางคลินิกวลีรัตน์
✨ สำรวจประสบการณ์แห่งการปรับปรุงตนเองที่คลินิกวลีรัตน์ทั้ง 5 สาขา
หากคุณมีคำถามหรือต้องการคำปรึกษา เพียงแค่กดปุ่มด้านล่างนี้ เพื่อเชื่อมต่อกับเราผ่านทาง Line